ค่าเงินเยนในปีนี้ลดค่าลงมามากกว่า ร้อยละ 18 ตั้งแต่ต้นปี นักวิเคราะห์จาก เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ (HSBC) คาดว่าน่าจะอ่อนค่าลงไปจนหลุดทะลุ 145 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และฝ่ายกลยุทธ์ของ เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ (HSBC) ได้ประมาณการว่าค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงทะลุระดับ 145 เยน ต่อ 1 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหลังจากที่แตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 24 ปี
การประมาณการของ เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ (HSBC) เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการคาดการณ์เมื่อไม่นานมานี้ของทาง โกลด์แมน แซคส์กรุ๊ป และ มิซูโฮ ซีเคียวริตีส์ หลังจากที่บรรดานักวิเคราะห์และประเมินผลกระทบอีกครั้งหนึ่งจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐและการยึดมั่นต่อนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นพิเศษของธนาคารกลางญี่ปุ่น
ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ได้รายงานว่าเงินเยนนั้นปรับตัวลดลงร้อยละ 0.2 ในวันที่ 6 กันยายน 65 ไปสู่ระดับต่ำกว่า 121 เยนเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ ค่าเงินเยนนั้นลดลงมามากกว่า ร้อยละ 18 แล้วในปีนี้
โดยเฉลี่ยอัตราซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ดอลลาร์ เทียบกับ เยน อยู่ที่ 145.37 เยนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะเคลื่อนไหวในแถว 123.28 เยนต่อดอลลาร์ และถ้าเกิดเทียบกับเงินบาท ตอนนี้ 1 บาทแลกได้ 4 เยน ก่อนหน้านี้ถ้าเกิดเทียบกันง่ายๆ เนี่ยราคาที่เรามีการแลกเปลี่ยน 30 บาท เท่ากับ 100 เยน คราวนี้อ่อนค่าลงมาประมาณ 25 บาท
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น มาจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ย้ำมุมมองว่า เฟดน่าจะมีการติดตามเรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แอสตร้ากว่า ร้อยละ 0.75 ในการประชุม 21 กันยายนนี้ เงินเยนอ่อนไหวอย่างมาก ต่อดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐแล้วก็ผลตอบแทนกว่า 20 ปีของทางสหรัฐ ซึ่งก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับการซื้อขายเมื่อวานนี้(6 กันยายน 65) ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบสองทศวรรษ อ่อนค่าลง ร้อยละ 0.2 มาอยู่ที่ 0.9888 ดอลลาร์ ต่อ 1 ยูโร จากระดับ 0.9864 ดอลลาร์
ขณะที่ปอนด์ของอังกฤษยังคงอ่อนค่าเช่นเดียวกัน อยู่ที่ 1.1444 ดอลลาร์ต่อ 1 ปอนด์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินยูโรและเงินปอนด์อังกฤษ มาจากความกังวล วิกฤติการณ์ทางด้านพลังงาน รัฐมนตรีพลังงานสหภาพยุโรปได้เตรียมประชุมภายในสัปดาห์นี้เพื่อหารือทางเลือกต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาที่ตอนนี้รัสเซียมีการปิดท่อส่งก๊าซ
ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ วัดความเคลื่อนไหวเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 110.43 ใกล้เคียงกับ 110.57 ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 20 ปี เมื่อวานนี้
เช้าวันนี้เมื่อเวลา 9.40 นาที ตามเวลาของประเทศญี่ปุ่น( 7 กันยายน 65) เปิดตลาดการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินต่างประเทศที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น นักลงทุนเทขายเยนออกมาอย่างชนิดที่หน้าตักแรงเหมือนกันเยนญี่ปุ่นเทียบกับดอลลาร์ไปอยู่ที่ 143.14 เยน และกำลังเจอแรงกดดันทั้งในประเทศและนอกประเทศอย่างชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นระบุว่าตลาดมีความผันผวนเพิ่มขึ้นและตอนนี้เจ้าหน้าที่รัฐกำลังจับตาดูค่าเงินเยนอย่างใกล้ชิด ถ้าหากว่าจบปีนี้เงินเยนญี่ปุ่นยังอ่อนค่าต่อไปจะกลายเป็นเงินเยนญี่ปุ่นรายปีที่อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 42 ปี
แรงกระแทกดังกล่าวจะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของเงินเฟ้อในประเทศญี่ปุ่นซึ่งก็เป็นประเทศหนึ่งในโลกนี้ที่หนีไม่พ้นกับภาวะเงินเฟ้อที่แพงแรงขนาดนี้ เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นกับค่าเงินเยนเลยว่านับตั้งแต่เริ่มมีการใช้มาตรการเยนญี่ปุ่นนั้น เคลื่อนไหวอิสระถูกกำหนดดึงกลไกของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนโลกเมื่อกว่า 47 ปีที่ผ่านมาจะเกิดขึ้นในปีนี้
กลิ่นภาวะวิกฤติต้มยำกุ้งและวิกฤติการเงินเอเชียจะเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่ ?
ล่าสุดวันนี้ (7 กันยายน 2565) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นตัดสินใจแจกเงินคนญี่ปุ่นคนละ 50,000 เยน ลองคิดที่ 26 บาท แต่จริงๆ ตอนนี้แตะที่ 25.85 บาท คิดเป็นเงินบาทจะได้คนละประมาณ 13,000 บาท ในแต่ละครัวเรือน โดยเฉพาะครัวเรือนที่มีฐานะยากจนรายได้น้อยเพื่อเอาไว้ซื้อข้าวของเครื่องใช้จำเป็น ที่ตอนนี้กำลังแพงขึ้นในญี่ปุ่น
แน่นอนถ้ามาดูตรงจุดนี้ก็จะพบว่านับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้เยนญี่ปุ่นเทียบดอลลาร์ลื่นไถลร่วงไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องแทรกแซงแต่แทรกแซงแต่ไม่ไหว จนต้องผ่อนให้เป็นไปตามกลไกความแรงในตลาด
ในส่วนของมุมมองสถาบันการเงินให้จับตาถ้า เยนเทียบดอลลาร์สหรัฐลื่นไปที่ 850 เมื่อไหร่ จะได้กลิ่นภาวะวิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งเคยเกิดขึ้นที่ประเทศไทย และวิกฤติการเงินเอเชียจะเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่ แต่อาจย้ายจากไทยไปอยู่ที่ญี่ปุ่น เพราะการปล่อยให้ลื่นไถลขนาดนั้น ขนาดตอนนี้ 143 ญี่ปุ่นมาแล้ว 20% ร่วงแล้วถ้าไปถึง 150 นั่นหมายความว่ามันต้องมี 25 ต้นๆ จะแตะ 30% เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากสำหรับค่าเงินของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เบอร์ต้นๆ ของโลกแล้วอ่อนค่าปีเดียวถึง 30% เป็นสัญญาณที่อันตรายมากๆ
ตรงนี้เองทำให้มีการประเมินว่า คำพูดของ เจอโรม โพเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา มีพลังมหาศาลจริงๆ เพียงแค่ 8 นาทีเนี่ย ทำให้สั่นสะเทือนทั้งวงการ ตลาดหุ้น ภาวะอัตราแลกเปลี่ยน ภาวะของเงินคริปโตเคอเรนซี่และภาวะหุ้นกู้พันธบัตร
ตอนนี้สินทรัพย์ปลอดภัยที่สุดเหลือไม่กี่ตัวหนึ่งในนั้นคือ “ดอลลาร์สหรัฐ” สถานการณ์แบบนี้ทำให้ตอนนี้แนวโน้มที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในวันที่ 20 – 21 กันยายน 65 สูงขึ้นมาเป็น 64.5% คือก่อนหน้านี้ไม่เคยมองถึง 60% ด้วยซ้ำ ว่าแบงค์ชาติอเมริกาจะขึ้น 0.75% ในการประชุมระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน 65 แต่ในที่นี้น้ำหนักโหมเทมาถึง 64.5
นั้นทำให้หุ้นของบริการตกมาเรื่อยๆ ขนาดวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันแรงงานแห่งชาติ คืนแรกของสัปดาห์ หุ้นตกต่อเนื่อง จนทำให้ แนสแดค(Nasdaq) ทำสถิติของหุ้นดัชนี แนสแดคตกยาวนานถึง 7 วันติดต่อกันมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปี
สถานการณ์ของเงินเยนต่อดอลลาร์ถ้าหากแนวโน้มอย่างนี้ การแทรกแซงอาจจะเอาไม่อยู่แต่อาจจะมีการปล่อยไปบ้างแต่ว่าอาจจะมีการชะลอดึงไว้ และอาจจะเห็นเงินเยนร่วงต่อเนื่องจนถึงระดับ 25% ตั้งแต่ต้นปีก็เป็นไปได้ แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่เงินเยนไปเฉียดใกล้ ๆ แถว 150 ก็ต้องระวังสัญญาที่จะเกิดขึ้น
ในขณะที่เทรนเนอร์ได้ประเมินส่วนต่างอัตราผลตอบแทนที่ขยับกว้างขึ้นระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นโดยกรณีดังกล่าวสนับสนุนให้นักลงทุนแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ ตั้งแต่ตราสารหนี้ระยะสั้น จนถึงตราสารหนี้ระยะยาว สำหรับปัจจัยที่บั่นทอนเงินเยนนั้นก็ยังคงมีอยู่มาก เช่น ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก็ยังสร้างแรงกดดันต่อการขาดดุลการค้าของญี่ปุ่น
การแลกเปลี่ยนระหว่าง เยนกับบาทไทยอาจจะมีดีกว่านี้ในสายตาของคนไทยที่อาจจะไปเที่ยวญี่ปุ่นหรือเก็บเงินเยนไว้ทำกำไรในวงการอัตราแลกเปลี่ยนที่ดูจะมีพลังและความเคลื่อนไหวที่รุนแรงต้องจับสัญญาณว่าจะเป็นอย่างไรกันต่อไป
เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ
ร่วมแสดงความคิดเห็น