วิทยุการบินฯ เตรียมพร้อมบริหารจราจรทางอากาศ ช่วงงานวันเด็กแห่งชาติ

วิทยุการบินฯ กำหนดมาตรการบริหารจราจรทางอากาศ เตรียมพร้อมรองรับการแสดงการบินของกองทัพอากาศ ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ณ โรงเรียนการบินกำแพงแสน และสนามบินภูมิภาค เพื่อให้เที่ยวบินได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
กองทัพอากาศ มีกำหนดจัดกิจกรรมการแสดงการบิน หรือ Air Show ปีละครั้งในงานวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 โดยจัดการแสดงการบินที่ โรงเรียนการบินกำแพงแสน จ.นครปฐม และในส่วนของสนามบินภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก อุดรธานี อุบลราชธานี หาดใหญ่ และสุราษฎร์ ธานี ยังมีการจัดกิจกรรมแสดงการบินเช่นเดิม หลังจากว่างเว้นมาหลายปี

สำหรับมาตรการบริหารจราจรทางอากาศ รองรับการแสดงการบินวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 วิทยุการบินฯ ได้ประสานกับกองทัพอากาศ ในการจัดช่วงเวลาการแสดงการบิน ทั้งการแสดงการบินจริงในวันเด็กแห่งชาติ และวันฝึกซ้อม เพื่อวางแผนบริหารจัดการด้านความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Flow Management) และกำหนดวิธีปฏิบัติรองรับ อีกทั้งได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกองบินต่าง ๆ ในส่วนของสนามบินภูมิภาค ในการจัดช่วงเวลาการแสดงการบิน ให้สอดคล้องกับตารางการขึ้น-ลง ของเที่ยวบินพาณิชย์ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงาน (วอร์รูม) เพื่อติดตามสถานะของเครื่องบินให้อยู่ในกรอบของตารางการบิน ที่กำหนด และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทุกส่วนงาน เข้าร่วมติดตามและแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าร่วมกัน

นอกจากนี้ วิทยุการบินฯ ยังได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติและการบริหารจัดการรองรับการแสดงการบิน ร่วมกับ กองทัพอากาศ สายการบิน และท่าอากาศยาน เพื่อกำหนดรูปแบบการใช้งานห้วงอากาศ และเส้นทางบิน เข้า/ออก โดยได้มีการประสานงาน วางแผน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กองทัพอากาศ กองทัพเรือ กรมท่าอากาศยาน และสายการบินต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ โดยกองทัพอากาศได้แจ้งประสานงาน และรวบรวมรายละเอียดข้อมูลการจัดแสดงการบินของกองบินต่าง ๆ ในสนามบินส่วนภูมิภาค ให้วิทยุการบินฯ ทราบ เพื่อประสานกับศูนย์ควบคุมการบินที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ให้เที่ยวบินพาณิชย์ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อีกทั้งได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยกำหนดให้ใช้สนามบินอู่ตะเภา หรือสนามบินอื่นที่สายการบินเห็นว่าเหมาะสมเป็นสนามบินสำรอง

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กในการเรียนรู้ และมีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์ด้านการบิน โดยวิทยุการบินฯ มุ่งมั่นในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และเกิดผลกระทบด้านความล่าช้าของเที่ยวบินน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทาง และติดตามข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์จากสายการบินอย่างใกล้ชิด

ร่วมแสดงความคิดเห็น