กกต.เชียงใหม่ ให้ความรู้ เสวนา “รู้ก่อนเลือกตั้ง พลังคนไทยได้ใช้สิทธิ”
เมื่อเช้าวันที่ 20 มี.ค. 2566 นายแสงทอง อนันตภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 พร้อมนายนพดล สุยะ ผอ.กกต.เชียงใหม่ ร่วมกันเปิดกิจกรรมสโมสรคนสื่อ เวทีเสวนา “รู้ก่อนเลือกตั้ง พลังคนไทยได้ใช้สิทธิ์” โครงการ การรับฟังเสียงประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและตัดสินใจ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ห้องประชุม สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 จ.เชียงใหม่ มีสื่อมวลชนเชียงใหม่เข้ารับฟังการเสวนาครั้งนี้ จำนวนมาก
นายนพดล สุยะ ผอ.กกต.เชียงใหม่ กล่าวว่า หากมีการยุบสภา ต้องเลือกตั้งภายใน 45 วัน หรือไม่เกิน 60 วัน หลังจากมีการยุบสภา ซึ่ง ประเทศไทยมีทั้งหมด 70 พรรคการเมือง ส่วน จ.เชียงใหม่ มี 38 พรรคการเมือง มี 10 เขตเลือกตั้ง จากที่มี 11 เขตเลือกตั้ง ยุบไป 1 เขต เพราะ ประชากรเดิมที่มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 1,720,000 คนเศษ เป็นสัญชาติไทย ส่วนไม่ได้สัญชาติไทย มีจำนวน 160,000 คนเศษ จึงต้องยุบไป 1 เขตเลือกตั้ง
จ.เชียงใหม่ จะเปิดรับสมัคร ส.ส.ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (หลังศาลากลาง ที่จัดงานฤดูหนาว) โดย ผู้สมัคร ส.ส.จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องนำเงินจำนวน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาท) จ่ายค่าสมัครด้วย
การหาเสียง ของผู้สมัคร ส.ส.มีผู้ช่วยหาเสียงไม่เกิน 20 คน มีค่าตอบแทน เลี้ยงอาหาร และแจกเสื้อสิ่งของช่วยหาเสียงของพรรคหรือผู้สมัครได้ แต่หากคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้ช่วยหาเสียงแต่สวมใส่เสื้อพรรคหรือเสื้อที่มีชื่อผู้สมัครติดอยู่ แล้วไปอยู่ในที่หาเสียง หากมีผู้ร้องเรียน ถือว่ามีความผิดทั้งผู้สมัครและผู้ที่สวมเสื้อดังกล่าว มีโทษทางกฎหมายทั้งคู่
เจ้าหน้าที่ กกต.เชียงใหม่ มีทั้งหมด จำนวน 23 ท่าน มีหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 2,800 หน่วยเลือกตั้ง จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.พ.ศ.2562 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 1,303,580 คน แต่มีผู้มาลงคะแนนใช้สิทธิ์ 1,086,307 คน คิดเป็น 83.33% เป็นเยาวชน อายุ 18-30 จำนวน 10% อายุ 30-45 ปี คิดเป็น 25-30% ส่วนบัตรเสีย 61,380 บัตร คิดเป็น 5.65% บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน จำนวน 16,227 บัตร คิดเป็น 1.49% บัตรเสียพบว่า มีกากบาทผิดจุด ไปกาที่ตัวเลขลำดับผู้สมัคร ไม่กากบาทที่ช่องลงคะแนน ฝากเตือนให้บุตรหลานบอกผู้สูงอายุที่บ้าน คือ พ่อ-แม่ ด้วยโดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่พื้นที่สูง บนดอยสูงให้ทราบถึงช่องลงคะแนนด้วย
สำหรับปีนี้ พ.ศ.2566 ต้องการให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ มากถึง 85% และกฎหมายใหม่ เปิดโอกาศให้ลงคะแนนล่วงหน้าได้ ลงคะแนนสลับเขตเลือกตั้งก็ได้ การเลือกตั้ง 2566 จะทราบผลทั้งหมดไม่เกิน 21.00 น.หลังปิดหีบเลือกตั้ง สามารถติดตามผลทางโซเซียล หรือทางออนไลน์ หรือทางมือถือได้
ด้านสื่อมวลชน ขอบเขตการทำงาน สามารถเข้าถ่ายภาพในคูหาเลือกตั้งตามที่เขตเลือกตั้งนั้นๆ อนุญาต แต่ไม่ให้ถ่ายภาพที่ในช่องคูหากากบาทเลือกตั้ง เพราะจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนเองก็สามารถเป็นกระบอกเสียงร่วมตรวจสอบการกระทำความผิดการเลือกตั้งแล้วแจ้งให้ กกต.ทราบได้
ส่วน เอ็กซิทโพล ห้ามเผยแพร่ก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้ง 7 วัน หรือจะเผยแพร่ได้ ต้องหลังเวลา 17.00 น.หรือหลังปิดหีบเลือกตั้งเท่านั้น
กกต.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า พรรคการเมืองเชียงใหม่ จะมีพรรคเด่นๆ ประมาณ 10-11 พรรคเท่านั้น ที่จะลงแข่งขันกัน และเชื่อว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง และที่ผ่านมามีการฟ้องคดี แต่บางคดีไม่สามารถเอาผิดได้เพราะขาดพยานหลักฐานในชั้นศาลเป็นต้น และ กกต.เองก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวม 20 องค์กรที่ทำงานร่วมกันในการหาข่าว และทำงานร่วมกันในช่วงการเลือกตั้ง และเชื่อว่าชาวเชียงใหม่จิตใจดีงาม ย้ำไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างแน่นอน หากดูจากตัวอย่างการเลือกตั้งท้องถิ่น อบต.และ ส.อบจ.และนายก อบจ.เชียงใหม่ที่ผ่านมาเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี
“สำหรับ กกต.เชียงใหม่ ผมยืนยัน กกต.เป็นกลางแน่นอน เพราะไม่เสี่ยงที่จะเอาตำแหน่งหน้าที่ของผมไปเสี่ยง เพราะยุคนี้หากทำความผิดแล้วนั้นจะมีผู้ตรวจสอบที่เห็นผลไว้มาก” ผอ.กกต.กล่าว
ร่วมแสดงความคิดเห็น