สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาให้ผลตอบแทนที่ถือว่าดีที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์โดยปัจจัยหนุนมาจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังจากที่เงินดอลลาร์เดินหน้าแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง เงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงมาจากการเพาะบ่มของภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐอ่อนแอและก็แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ โดยเฉพาะภาคการบริการ ดัชนีออกมาต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน
ส่วนปัจจัยทางด้านเทคนิคก็เป็นปัจจัยหนุนหลังจากที่เกิดเครื่องมือทางเทคนิคระยะสั้น เกิดสัญญาณซื้อขึ้นทำให้ราคาทองคำก็สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันมา 4 วัน ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันพฤหัส
แต่วันศุกร์ราคาทองคำย่อตัวลงซึ่งก็เป็นผลจากการกล่าวสุนทรพจน์ของ นายเจอโรม พาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีการแถลงในการประชุมประจำปีที่ แจ็กสันโฮล แถลงว่า เงินเฟ้อยังสูงเกินไปแล้วก็อาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไป โดยรายละเอียดก็คือ ท่านบอกว่า เงินเฟ้อของอเมริกาอยู่สูงเกินไปและอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
โดยรายละเอียดของเนื้อหา นายเจอโรม พาวเวล กล่าวว่า อาจจะต้องต่อสู้ต่อไปถึงแม้จะมองว่าเงินเฟ้อน่าจะลดลงจากเคยขึ้นไปที่จุดสูงสุดมาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ก็ยังมองว่าสูงเกินไป เฟดก็เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยอะอีกเพื่อให้เงินเฟ้อลงมาสู่เป้าหมาย 2% ที่ผ่านมาเฟคขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 11 ครั้ง อัตราดอกเบี้ยของเฟคล่าสุดก็คือ 5.25-5.5% สูงที่สุดในรอบ 22 ปี ทั้งนี้ เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่จะลดดอกเบี้ยลงและไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย พูดแต่ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย
ในส่วนของราคาทองคำสปอร์ตคืนวันศุกร์มีการปรับตัวลงมาใกล้ๆ 1,900 ดอลลาร์ และมีการฟื้นตัวขึ้นมาก่อนปิดตลาดที่ 1,914 ดอลลาร์ ลดลงไป 2 ดอลลาร์ แต่ทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้นถึง 25 ดอลลาร์ หรือว่าเพิ่มขึ้น 1.35% และกองทุน SPDR สัปดาห์ที่แล้วขายทองคำออกมา 0.06 ตัน
ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้มี 3 ประเด็นคือ ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐ มีการจ้างงานจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร และจำนวนผู้ขอการว่างงาน 2 GDP ไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการประมาณการครั้งที่ 2 และส่วนที่ 3 ดัชนี PCE พื้นฐานเดือนกรกฎาคม ตัวเลขการว่างงานตลาดคาดการณ์ว่า GDP จะเพิ่มสูงขึ้น จำนวน 201,000 ตำแหน่ง ตัวเลขการจ้างงานนอกกระแสตลาดคาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 196,000 ตำแหน่ง
แนวโน้มราคาทองคำสปอร์ตระยะสั้น คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,900 ถึง 1,920 ดอลลาร์ ซึ่งคิดว่าประเด็นที่ทำให้ราคาทองคำผันผวน ตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์เป็นต้นไป ก็คงเกิดขึ้นจากตัวเลขการจ้างงาน แล้วก็ดัชนี pce พื้นฐาน ตรงนี้สำคัญเพราะว่า เพราะเป็นอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย เฟค ใช้ในการเฝ้าดู ตัวนี้เป็นหลัก
ทองคำให้แนวรับให้ 1,900 และ 1,890 ดอลลาร์ ในส่วนของแนวต้านให้ 1,920 ดอลลาร์ และ 1,930 ดอลลาร์
สำหรับราคาทองคำแท่งของสมาคมทองคำเมื่อวันเสาร์ขายออก 31,850 บาทเพิ่มขึ้น 100 บาท รวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 150 บาท
แนวรับ 31,700 บาทถึง 31,600 บาท แนวต้าน 31,900 บาท แล้วก็ 32,000 บาทถ้วน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนกรณีทองแท่งการเข้าซื้อ 1,890 ถึง 1,900 ดอลลาร์
ในส่วนของการเก็งกำไร ก็ให้เน้นฝากซื้อเป็นหลัก ย่อตัวลงมา 1,900 ดอลลาร์ เข้าซื้อได้ จุดขายได้ซื้อขายกำไรขาดทุน 1,890 ดอลลาร์ ขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้น ใครที่มีทองคำอยู่สามารถขายทำกำไรได้ที่ 1,930 ดอลลาร์
เงินบาทในสัปดาห์ที่แล้วมีการแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลุดไปที่ 35 บาท และลงไปแตะที่ 34 บาท 76 สตางค์ ทั้งสัปดาห์แข็งค่าขึ้นที่ 24 สตางค์ แต่เมื่อวันศุกร์เงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง อยู่ที่ 35 บาท 10 สตางค์ อ่อนค่าลงไป 17 สตางค์
ปัจจัยที่ทำให้เงินบาทในสัปดาห์ที่แล้วแข็งค่าขึ้นเกิดจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และที่สำคัญน่าจะเกิดจากประเด็นการเมืองภายในประเทศของเมืองไทย โดยสัปดาห์ที่แล้วมีการโหวตนายก ได้นายกก็คือ คุณเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย ก็ผ่านการเห็นชอบจากสภา เป็นนายกคนที่ 30 ของประเทศไทย และทำให้หลายๆฝ่ายเริ่มมีความหวังว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาล และมีนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ก็คงเกิดจากที่แบงค์ชาติประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจ มีตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐ นักลงทุนในต่างประเทศเข้ามาซื้อ สุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,200 ล้านบาท
แนวรับของเงินบาทให้ไว้ที่ 34 บาท 76 สตางค์ ในส่วนของแนวต้านให้ไว้ที่ 35 บาท 40 สตางค์
เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

ร่วมแสดงความคิดเห็น