ว่อนโชเซียล หลังพลเมืองดีถ่ายภาพหวาดเสียวนักท่องเที่ยวต่างชาติขึ้นไปบนหลังคารถสี่ล้อแดงรอบคูเมืองเชียงใหม่ ล่าสุด ตร.นำตัวคนขับทั้ง 2 คันมาดำเนินคดีแล้ว
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 66 พลเมืองดีที่ขับรถผ่านคูเมืองเชียงใหม่ ได้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ นนท.ชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและเป็นอันตราย โดยพลเมืองดีระบุว่าเหตุการร์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ทุ่ม คืนวันอาทิตย์ 1 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งกำลังเล่นพิเรนทร์ยืนอยู่ที่บริเวณท้ายรถโดยสารสี่ล้อแดง จำนวน 2 คันขับตามกันมา ขณะใช้บริการเดินทางไปตามเส้นทางตัวเมืองเชียงใหม่ ย่านประตูท่าแพ และได้ปีนขึ้นไปเหยียบราวจับ พร้อมทั้งขึ้นไปยืนที่วางสัมภาระด้านบนตัวรถทั้ง 2 คัน ทำให้ผู้พบเห็นและขับรถตามมาหวาดเสียว หวั่นจะเกิดอุบัติเหตุและอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ อีกทั้งจะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เสียหายด้วย
ทั้งนี้ จึงอยากขอเตือนให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ปีนป่านห้อยโหน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้โดยสาร หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมาอาจส่งผลเสียต่อผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ต.ค. 66 ทาง พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามตัวคนขับรถโดยสารสี่ล้อแดงเชียงใหม่ มาดำเนินคดี เนื่องจากภาพลักษณ์ที่ออกมาส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวและอันตรายต่อนักท่องเที่ยวด้วย
ซึ่งทางชุดสืบสวนได้เชิญตัว นายนกสิน (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาวอำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายสิทธิ (สงวนนามสกุล) ชาวอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นขับรถโดยสารสี่ล้อแดงดังกล่าว ได้มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ และยอมรับว่าเป็นเจ้าของรถสี่ล้อแดงคันที่เป็นข่าว รวม 2 คัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับผู้โดยสารเป็นฝรั่ง ขอเหมาเที่ยวรอบคูเมือง โดยก่อนขึ้นตนก็ได้เขียนป้ายบอกเตือนแล้วว่าห้ามปีนป่าย ให้นั่งรถตามระเบียบที่เขียนไว้ แต่ก็ไม่ทราบจริง ๆ ว่าปีนป่ายขึ้นช่วงไหน เพราะอยู่บนหลังคาคนขับจะไม่เห็น
อย่างไรก็ตามตนยอมรับว่าตนทำผิดจริงที่บอกนักท่องเที่ยวแล้วแต่ไม่ยอมฟัง แต่แอบขึ้นไปโดยไม่รู้ตัวก็ขออภัยต่อคนเชียงใหม่ทุกคนด้วยเพราะตนรู้ดีหากตกลงมาจะมีอันตรายและเสียหายต่อบ้านเมืองเมืองท่องเที่ยวเรา จากนี้ไปจะระมัดระวังให้มากที่สุด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปชี้รถยนต์ที่บรรทุกผู้โดยสารทั้ง 2 คัน และได้นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ทำการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น