ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566

ราคาทองคำปรับตัวลงเนื่องจากแรงเทขายทำกำไร

ราคาทองคำสปอตปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10% ภายใน 2 สัปดาห์จากประเด็นสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ปิดตลาด เมื่อคืน 1,970 ดอลลาร์ ลดลงไปเพียง 1.6 ดอลลาร์

สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังตึงเครียดอยู่ในอิสราเอลบอกว่าเตรียมเทียบโจมตีภาคพื้นดินเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส ก่อนหน้านี้ก็มีการโจมตีภาคอากาศอย่างหนักหน่วงอยู่ 

ส่วนเมื่อคืนสหรัฐเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคการบริการ เดือน ตุลาคม ออกมาดีเกินคาดทั้ง สองตัว ดัชนีการผลิต PMI เดือนตุลาคม ออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 50 ขณะที่ตลาดประเมินว่าจะออกมาลดลงเหลือ 49.5 ดัชนี PMI ภาคการบริการ เดือน ตุลาคม ออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 50.9 สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงเหลือ 49.9 เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

กองทุน SPDR เมื่อวานนิ่งถือครองเท่าเดิม

ประเด็นที่ต้องติดตามแน่นอนเรื่องสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางติดตามกันต่อไป

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ เดือน กันยายน ตลาดประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 678,000 ยูนิต

แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคถ้าดูกราฟแท่งเทียนจะเห็นว่า แรงซื้อ แรงขาย พอๆกัน ดังนั้นแนวโน้มราคาทองคำก็น่าจะเคลื่อนไหวลักษณะที่เป็นไซต์เวย์ อาจจะไม่ได้เคลื่อนไหวแบบหวือหวามากอันนี้คือทางเทคนิค นอกจากพื้นฐานจะมีปัจจัยอะไรที่รุนแรงเข้ามา

ดังนั้นก็มองว่ากรอบการเคลื่อนไหวก็คงจะอยู่ประมาณ 1,950 ถึง 1,980 ดอลลาร์ แนวรับ 1,950 ดอลลาร์น่าจะรับอยู่ แต่ถ้าเกิดรับไม่อยู่ก็อาจจะหลุดลงมาแล้วก็จะมีแรงเทขายพอสมควรทีเดียว

แนวรับสำคัญถัดไป 1,930 ดอลลาร์ เป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน

ส่วนแนวต้าน 1,980 ดอลลาร์ และแนวต้านสำคัญ 2,000 ดอลลาร์

สำหรับราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 4 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 33,700 บาท ลดลง 50 บาทประเด็นหลักๆ ก็มาจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย รวมทั้งราคาทองตลาดโลกที่ปรับตัวลง 

แนวรับ 33,600 บาท และ 33,400 บาท

แนวต้าน 33,850 บาท และ 34,050 บาท

สำหรับการลงทุนถ้าเป็นการลงทุนระยะสั้นเจาะเทรดดิ้งตามกรอบประมาณ 1,950 ดอลลาร์ ถึง 1,980 ดอลลาร์ ได้ คือเขาซื้อเก็งกำไรที่ 1,950 ดอลลาร์ แล้วก็ขายทำกำไรที่ 1,980 ดอลลาร์ ขึ้นไป 

ส่วนการลงทุนถ้าเกิดคิดว่าอยากจะขายทำกำไรออกมาดีมั้ยถ้าเห็นใกล้ๆ ประมาณ 1,980 ดอลลาร์ แล้วก็ประมาณ 2,000 ดอลลาร์ น่าจะเป็นจุดที่ขายทำกำไรออกมาดีกว่า

ส่วนการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์เก็งกำไรฝั่งซื้อที่ 1,950 ดอลลาร์ คัทลอส1,910 ดอลลาร์

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ซื้อเก็งกำไรที่ 1,975 ดอลลาร์ คัทลอส 1,965 ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เมื่อวานแข็งค่าขึ้น 14 สตางค์ อยู่ประมาณ 36 บาท 14 สตางค์ ตลอดสัปดาห์ แข็งค่าขึ้น 30 สตางค์ ส่งผลกระทบกับราคาทองแท่งในประเทศ สังเกตว่าราคาทองแท่งในประเทศเมื่อวานปรับลงเยอะ ส่วนหนึ่งก็คือเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย

เงินบาทระยะสั้นแนวโน้มน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบแล้วก็แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ปัจจัยหนุนสำหรับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่วนหนึ่งก็คือการออกของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 น่าจะออกมาแนวโน้มดีขึ้นก็เป็นไปได้เหมือนกันฟันด์โฟลว์จากต่างประเทศจะไหลเข้าตลาดหุ้นสำหรับเงินบาท

แนวรับ 36 บาท

แนวต้าน 36 บาท 40 สตางค์

ส่วนยูเอสดีฟิวเจอร์ส แนวรับ 35 บาท 80 สตางค์

แนวต้าน 36 บาท 20 สตางค์

ยูเอสซีฟิวเจอร์จะซื้อขายเงินบาทต่ำกว่าตลาดประมาณ 20 สตางค์ ส่วนหนึ่งก็คือการประเมินว่าเงินบาทแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นในอนาคต ดังนั้นการลงทุนในยูเอสดีฟิวเจอร์สฝั่งซื้อก็มีความได้เปรียบอยู่ปรับตัวลงมา 35 บาท 80 สตางค์ ซื้อได้และขายออกทำกำไรประมาณ 36 บาท 20 สตางค์ ขึ้นไป

ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุน

เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

ร่วมแสดงความคิดเห็น