ผู้ว่าฯ สั่งสอบหลังพบบั้งไฟระเบิดลักลอบทำในบ้านไม่ขอใบอนุญาต

ผู้ว่าฯ สั่งสอบหลังพบบั้งไฟระเบิดลักลอบทำในบ้านไม่ขอใบอนุญาต พบปล่อยปะละเลยลงโทษทันที สั่งคุมเข้มพลุดอกไม้ไฟตลอดเทศกาลลอยกระทง

ความคืบหน้าเหตุบั้งไฟระเบิดในบ้านเลขที่ 60 หมู่ หมู่ 1 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จนทำให้นายตุ่น ดวงกิต อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นคนทำบั้งไฟเสียชีวิตในที่เกิดเหตุและทำให้โรงรถที่เป็นจุดทำบั้งไฟเสียหายทั้งหลังจากแรงระเบิด

หลังเกิดเหตุนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนระบุว่าก่อนหน้านี้นายตุ่นเคยแอบทำบั้งไฟในบ้านและในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลป่าไผ่ได้เข้ามาห้ามและเตือนแล้วว่าหากจะทำต้องขออนุญาตให้ถูกต้องก่อน แต่ก็ไม่มาขอ กระทั่งมาเกิดเหตุในครั้งนี้

หลังจากนี้จะสั่งตั้งกรรมการสอบว่ามีเจ้าหน้าที่รู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้นายตุ่นลักลอบทำบั้งไฟหรือไม่และให้ทราบข้อเทจจริงภายใน 7 วัน หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือเป็นความบกพร่องของพื้นที่จะต้องดำเนินการตามข้อกฏหมาย

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้มีหนังสือคำสั่งและกำชับให้ฝ่ายปกครองทุกอำเภอตรวจสอบในเรื่องนี้มาโดยตลอด เนื่องจากฝ่ายปกครองเป็นผู้ออกใบอนุญาตและดูแลรับผิดชอบทะเบียนในเรื่องวัตถุระเบิด ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะต้องดูในเรื่องของการตรวจอากคารสถานที่และอนุญาตเบื้องต้น หลังจากนี้ก็เน้นย้ำให้เพิ่มความเข้มงวดเนื่องจากใกล้ถึงเทศกาลลอยกระทง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิดอย่างรุนแรง ที่บ้านบ้านสันต้นผึ้งใหม่ หมู่ 14 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บถึงแปดคนและยังมีบ้านเตือนประชาชนได้รับความเสียหายอีกกว่า 30 หลังก่อนจะมาเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันในวันนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น