Nvidia ร่วมมือไทยปักหมุดพัฒนาระบบคลาวด์

ประเทศไทยกำลังเป็นที่ดึงดูดจากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในการผลิตวัสดุในการสร้างปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลังจากเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการจับมือกับบริษัท Nvidia ผ่าน บริษัท Siam.AI Cloud

บริษัท Siam.AI Cloud คือบริษัทแรกในประเทศที่ถือครองระบบคลาวด์โดยความร่วมมือของ Nvidia

เจนเซ่น หวง ประธานกรรมการบริหารของ Nvidia และผู้คิดค้น ชิป AI Nvidia มีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ เกี่ยวกับกลยุทธ์ AI ที่สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศ และการร่วมมือกับ Siam.AI Cloud ในวันที่ 4 ธันวาคม ที่ประเทศไทย

คลาวด์ที่สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศคือระบบคลาวด์ที่ ช่วยให้หน่วยงานต่างๆ สร้างคลาวด์ที่เหมาะสมกับกฎหมายของแต่ละประเทศได้ Siam.AI Cloud หวังจะเพิ่มความเข้มข้นการแข่งขันในธุรกิจคลาวด์ เพื่อมุ่งเจาะตลาดคลาวด์ Gulf Edge เพิ่งเข้าร่วมกับ Google คลาวด์ ในขณะที่ AIS กำลังร่วมมือกับ Oracle โดย Siam.AI Clod คือหนึ่งในบริษัทที่มุ่งเน้นในพื้นที่ของ AI ในประเทศไทย โดยการควบรวมเทคโนโลยีระดับโลกกับความเชี่ยวชาญระดับท้องถิ่น

โดยบริษัทกล่าวว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยเปิดทางให้การขับเคลื่อนอนาคตด้วยเทคโนโลยี AI ในประเทศไทย

รัตนพล วงศ์นภาจันทร์ หัวหน้าฝ่ายบริหารของ Siam.AI Cloud คือลูกชายของ เยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวของ ทักษิน ชินวัตร

“การเยี่ยมชมของ CEO ของ Nvidia เป็นหมุดหมายของโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทยที่จะแข่งขันกับอินโดนีเซีย และ มาเลเซีย เนื่องจาก ประเทศไทยเป็นผู้ร่วมมือกับ Nvidia เป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ศุภรัตน์ ศิวะเพ็ชรนาท สิงหรา ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไปของ ศูนย์กลางข้อมูล Edgnex ในดูไบ กล่าว

คุณ ศุภรัตน์ กล่าวว่า เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยมีฟาร์มหน่วยประมวลผลกราฟฟิกในประเทศ มันจะช่วยดึงดูด ห่วงโซ่อุปทาน ที่เกี่ยวกับ AI ให้มาสร้างศูนย์การผลิตที่ประเทศไทยได้ อย่างเช่นการผลิต ชั้นวางเซิร์ฟเวอร์ และ พื้นที่จัดเก็บ ศูนย์กลางข้อมูลคลาวด์ AI

เขากล่าวว่าแผนการร่วมมือกันครั้งนี้จะสร้างเหตุผลในการใช้ AI ในประเทศไทย อย่างเช่น การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ ใช้งานโดยธนาคารในการให้คะแนนเครดิต และการใช้คลาวด์ในเพื่อให้บริการการบริหารความมั่นคงให้กับประชาชน

คุณ ศุภรัตน์ กล่าวว่าคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนควรจะพิจารณาในเรื่องของแรงจูงใจต่อผู้ลงทุนเพื่อคว้าโอกาสเหล่านี้ไว้ การนำเข้าเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ต้องจ่ายภาษี 7% ซึ่งทำให้ประเทศไทยไม่เป็นที่ดึงดูดเท่าประเทศอื่นๆ  การลงทุนเหล่านี้จะช่วยเพิ่ม GDP แต่จะไม่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น ศูนย์กลางข้อมูลสามารถสร้างซอฟต์แวร์ที่ให้บริการในภาคส่วนต่างๆ ที่ประเทศไทยนั้นถนัด อย่างเช่นเรื่องการดูแลสุขภาพ, ความหลากหลายทางชีวภาพทางพันธุกรรม และ อาหาร

ที่มา: https://www.bangkokpost.com/business/general/2912946/nvidia-tie-up-marks-thai-cloud-milestone

ร่วมแสดงความคิดเห็น