เนื่องจากธุรกิจทางการเงินได้กำเนิดและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลได้เริ่มการพยายามในการที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินเพื่อดึงดูดผู้ดำเนินธุรกิจระดับโลก
เพื่อที่จะสนับสนุนแผนงานพิเศษนี้ ผู้ที่มีใบอนุญาตจะได้รับ สวัสดิการมากมาย ซึ่งจะถูกสนับสนุนโดยกฎหมายที่จะออกมาในอนาคตเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพของแผนงานนี้ กระทรวงการคลังได้จัดตั้งการประชุมที่จะฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติใหม่เพื่อที่จะรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและข้อเสนอแนะจากผู้ถือผลประโยชน์
การประชุมจะหารือในเรื่องปัญหาต่างๆที่ผู้ดำเนินธุรกิจได้รับผลกระทบ อย่างเช่น การเก็บภาษีที่มากขึ้นเทียบกับปประเทศอื่นๆ การดำเนินงานที่ยาวนานในการจัดตั้งบริษัท และ การขอใบอนุญาต รวมถึงการดำเนินงานกับหน่วยงานหลายแห่ง กรอบงานใหม่ของศูนย์กลางทางการเงินนี้เมื่อได้รับการความคิดเห็นจากสาธารณะแล้วจะช่วยแก้ปัญหาความบกพร่องเหล่านั้นให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างหมุดหมายของการเริ่มยุคใหม่ ด้วยการอำนวยความสะดวก โดยทำให้สภาพแวดล้อมของการทำธุรกิจมีความว่องไวและประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคำนึงถึงโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของประเทศไทย ที่ตั้งเชิงยุทธ์ศาสตร์ แรงงานจำนวนมาก และ ค่าครองชีพที่ถูก การริเริ่มโครงการในครั้งนี้ เสนอโอกาสให้กับผู้ดำเนินธุรกิจในไทยและต่างประเทศ ที่ต้องการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าต่างประเทศ และบริการสนับสนุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดเพิ่มเติม
สวัสดิการหลักสำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาติในโครงการศูนย์กลางทางการเงิน: ผู้ดำเนินธุรกิจที่ได้รับใบนุญาติจากโครงการศูนย์กลางทางการเงินนี้จะได้รับสวัสดิการในเรื่องของภาษี, โครงการออกใบอนุญาตแบบเร่งด่วน, กระบวนการกำกับดูแลที่กระชับและบริหารจัดการโดย One Stop Authority (OSA) และ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวย ได้แก่สิทธิในการจัดการเรื่องเงินตราต่างประเทศในฐานะวีซ่าคนอยู่ชั่วคราว, สามารถเป็นเจ้าของหน่วยอสังหาริมทรัพย์ได้, สามารถรับชาวต่างชาติมาทำงานและอาศัยในไทยได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดโดย (OSA)
One Stop Authority (OSA): โครงการจะถูกดำเนินการโดย OSA เป็นการบริการแบบที่เดียวจบ ซึ่งดำเนินงานโดยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ อย่างเช่น รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นศูนย์กลางของการจัดการที่จะทำให้ประสิทธิภาพนั้นสูงขึ้น
ภาคธุรกิจที่เป็นเป้าหมาย: โครงการนี้จะควบรวมหลายๆ ภาคธุรกิจเข้าด้วยกัน ได้แก่ 1. ธนาคารพานิชย์ 2. ระบบการชำระเงินและบริการการชำระเงิน 3. หลักทรัพย์ 4. ตราสารอนุพันธ์ 5. ทรัพย์สินดิจิทัล 6. ประกัน และ 7. ธุรกิจ หรือ การบริการอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ สนับสนุน ธุรกิจการบริการทางการเงิน ซึ่งจะถูกเลือกโดย OSA
ผู้ดำเนินธุรกิจที่เป็นเป้าหมาย: โครงการตั้งใจที่จะดึงดูดหน่วยงานหรือสาขาของหน่วยงานจากไทย และ ต่างประเทศ ที่ให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าต่างประเทศ สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการและสนับสนุนการบริการทางการเงิน ธุรกิจเหล่านั้นจะสามารถให้บริการกับทั้งคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และ ผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยตามเงื่อนไขที่จะประกาศในอนาคตโดย OSA ผู้ดำเนินธุรกิจที่อยู่ภายใต้แผนงานนี้สามารถตั้งหน่วยงานหรือสาขาใหม่ในนามของหน่วยงานต่างประเทศ สร้างความยืดหยุ่นในการจัดตั้งการดำเนินงาน
สิทธิประโยชน์สำหรับผู้รับใบอนุญาตและพนักงานต่างชาติในโครงการศูนย์กลางทางการเงิน
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย:
- เงินปันผลที่ส่งไปยังบริษัทแม่ในต่างประเทศ: การยกเว้นภาษี
- ดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่บริษัทแม่หรือบริษัทในเครือในต่างประเทศ: 15%
- นอกจากนี้ยังอยู่ภายใต้กฎ GloBE และสนธิสัญญาภาษีซ้ำซ้อนอีกด้วย
- บริษัทนานาชาติขนาดใหญ่:
- ผู้รับใบอนุญาตที่มีรายได้รวมของกลุ่มเกิน 750 ล้านยูโรจะต้องปฏิบัติตามกฎ GloBE เสาที่ 2
- หน่วยงานอื่นๆ:
- ผู้รับใบอนุญาตเหล่านี้จะได้รับอัตราภาษีที่ต่ำกว่าบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับพนักงานของบริษัท: 17%
สวัสดิการอื่นๆ
- สิทธิในการเป็นเจ้าของคอนโด เพื่อดำเนินงานทางธุรกิจ
- สิทธิในการนำพนักงานต่างชาติ รวมถึงย้ายครอบครัว มาอยู่และทำงาน ในประเทศไทยได้
- สิทธิที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินต่างประเทศ เสมือนว่าผู้รับใบอนุญาตไม่ใช่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ
- สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน
- โครงการออกใบอนุญาตแบบเร่งด่วน
ที่มา: https://bakerxchange.com/cv/8d7f71310096acdeb256555d0252181fdcf77709
ร่วมแสดงความคิดเห็น