USAID คืออะไร ทำไมทรัมป์อยากกำจัด

อนาคตของหน่วยงานช่วยเหลือต่างประเทศหลักของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังตกอยู่ในเงามืด เนื่องจากพนักงานถูกห้ามไม่ให้ทำงาน และ รัฐบาลของทรัมป์กำลังมีแผนที่จะควบรวมมันกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา

สำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ USAID อาจจะต้องดำเนินการในฐานะสาขาหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศ แต่แผนการเหล่านั้นจะต้องลดการระดมทุนและกำลังแรงงานด้วย

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ กล่าวหา หัวหน้าของ USAID ว่าไม่ทำตามคำสั่ง และ กล่าวว่าตอนนี้เขาเป็นแค่ “หัวหน้ารักษาการ”

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ ผู้ให้คำแนะนำของเขา มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ วิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานนี้อย่างรุนแรง

แต่การพยายามที่จะปิดหน่วยงานนี้อาจจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการด้านมนุษยธรรมรอบโลก

USAID คืออะไร และ ทำอะไร

สำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) ถูกตั้งขึ้นมาในช่วงต้นของปี 2503 เพื่อบริหารจัดการโครงการทางด้านมนุษยธรรมทั่วโลกในนามของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

หน่วยงานนี้จ้างพนักงานกว่า 10,000 คน 2 ใน 3 ของประชาชนที่ทำงานต่างประเทศ มีฐานการปฏิบัติงานมากกว่า 60 ประเทศ และ มีการปฏิบัติงานภาคสนามเพิ่มเติมอีกว่า 12 ที่ อย่างไรก็ตามการปฏิบัติงานภาคสนามถูกดำเนินการโดยองค์กรต่างๆ ที่มีสัญญาและได้รับเงินสนับสนุนจาก USAID

ขอบเขตของการปฏิบัติงานของ USAID นั้นกว้างมาก อย่างเช่น นอกจากจะทำการส่งอาหารไปที่พื้นที่ที่ประชาชนอดอยากแล้ว นอกจากนี้ยังใช้งานระบบตรวจจับความอดอยากที่เป็นมาตรฐานทองคำของโลกอีกด้วย ซึ่งใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพยายามทำนายว่าการขาดแคลนของอาหารกำลังเกิดขึ้นที่ไหน

งบประมาณของ USAID ส่วนใหญ่ถูกใช้ในโครงการทางด้านสุขภาพ อย่างเช่น ให้วัคซีนรักษาโรคโปลิโอแก่ประเทศที่ยังมีโรคนี้หมุนเวียนอยู่ในประเทศอยู่ และช่วยให้ไวรัสไม่แพร่กระจาย ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดการระบาดใหญ่ขึ้น

USAID ใช้เงินของรัฐบาลสหรัฐมากขนาดไหน

ตามการรายงานของข้อมูลของรัฐบาล สหรัฐใช้เงิน 68 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไปกับความช่วยเหลือระหว่างประเทศในปี 2566

งบประมาณนั้นกระจายไปกับหลายแผนกและหน่วยงาน แต่ งบของ USAID คิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยได้รับประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์

งบประมาณมากมายมหาศาลเหล่านั้นถูกใช้ส่วนใหญ่ในทวีป เอเชีย, แอฟริกาใต้สะฮารา และยุโรป แต่ใช้ไปกับความพยายามด้านมนุษยธรรมในยูเครน เป็นหลัก

สหรัฐคือผู้ที่ให้งบประมาณแก่การพัฒนาระหว่างประเทศมากที่สุด

เพื่อให้เข้าใจความยิ่งใหญ่ของการให้ทุนของสหรัฐ สหราชอาณาจักร คือประเทศที่ให้เงินทุนมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ไปกับ การพัฒนาระหว่างประเทศ โดยใช้เงินไป 15.3 พันล้านปอนด์ ในปี 2566 ประมาณหนึ่งในสี่ของที่สหรัฐให้เงินทุน

ทำไม โดนัลด์ ทรัมป์ และ อีลอน มัสก์ อยากยกเครื่อง USAID ใหม่

ทรัมป์ เป็นบุคคลผู้ที่ทำการวิจารณ์ USAID มาอย่างยาวนาน โดยกล่าวว่า มันทำให้คุณค่าของเงินที่ชาวอเมริกันจ่ายเป็นภาษีไร้ค่า และยังทำการโจมตีหน่วยงานนี้ โดยกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่นั่นว่าเป็น “คนบ้าหัวรุนแรง”

การยกเลิกหน่วยงานดังกล่าวอาจได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ให้เห็นมานานแล้วว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันสนับสนุนการลดค่าใช้จ่ายช่วยเหลือต่างประเทศ ตามรายงานของสภากิจการโลกแห่งชิคาโก ข้อมูลการสำรวจที่ย้อนกลับไปถึงช่วงปี 2513 บ่งชี้ว่ามีการสนับสนุนการตัดงบประมาณอย่างกว้างขวาง

หนึ่งในการกระทำแรกของทรัมป์หลังจากได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 2 คือ เซ็นลงนามในคำสั่งที่จะหยุดการให้เงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการนานาชาติทั้งหมด เป็นเวลา 90 วัน ซึ่งอาจจะเกิดการทบทวนและเปลี่ยนคำสั่งได้

บันทึกข้อความออกโดยกระทรวงการต่างประเทศ ณ ตอนนั้น ได้หยุดการทำงานภาคสนามส่วนใหญ่ ภายหลังได้มีการออกใบยกเว้นสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม แต่การประกาศดังกล่าวได้พลิกโฉมโลกของการพัฒนาระหว่างประเทศ และ ก่อให้เกิดการหยุดชะงักของบริการอย่างกว้างขวาง

โครงการอย่างเช่นการส่งยารักษาโรคไปที่ประเทศที่จนที่สุด และ ติดตั้งระบบน้ำสะอาด ต้องหยุดชะงักในชั่วข้ามคืน นักมนุษยธรรมอาวุโสคนหนึ่ง กล่าวกับ BBC ว่าการสั่งหยุดการทำงานในครั้งนี้เหมือนกับ “แผ่นดินไหวทั่วทั้งหน่วยงานการช่วยเหลือ”

ความตึงเครียดระหว่าง ทำเนียบขาว และ USAID เพิ่มขึ้นตลอดทั้งช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำงานให้ อีลอน มัสก์ ซึ่งถูกทรัมป์สั่งให้ระบุการลดการใช้จ่ายในงบประมาณของรัฐบาลกลาง ถูก สำนักงานใหญ่ของ USAID ปฏิเสธการให้ข้อมูลทางการเงิน รายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับสูง 2 คนถูกพักงานหลังเกิดเหตุ

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ กล่าวผ่านแอปพลิเคชัน X ว่า “ด้วยความเคารพต่อเจ้าหน้าที่ USAID ผมกับประธานาธิบดีได้ทำการพิจาราณาในรายละเอียดแล้ว และพวกเราเห็นด้วยว่าเราควรจะปิดตัวมันลง”

เว็บไซต์ของ USAID ได้หายไปแล้ว และ พนักงานของหน่วยงานถูกสั่งให้อยู่บ้านในวันจันทร์

โดนัลด์ ทรัมป์ จะปิดตัว USAID ได้ไหม?

ณ ตอนนี้ ชัดเจนว่าทำเนียบขาวมีอิทธิพลสำคัญต่อ USAID ซึ่งเป็นอำนาจที่ถูกจำกัดในทางทฤษฎี

USAID เกิดขึ้นหลังจากสภาคองเกรสผ่านพระราชบัญญัติความช่วยเหลือต่างประเทศ ในปี 2504

หลังจากนั้นไม่นาน ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ได้ใช้คำสั่งฝ่ายบริหาร จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ก่อตั้ง USAID กฎหมายอีกฉบับได้รับการผ่านในปี 2541 ซึ่งยืนยันสถานะของ USAID ในฐานะหน่วยงานบริหารในสิทธิของตนเอง ซึ่งหมายความว่า ทรัมป์ ไม่สามารถกำจัดหน่วยงานนี้ไปได้ง่ายๆ ด้วยการเซ็นคำสั่งฝ่ายบริหาร หรือวิธีอื่นๆ ซึ่งจะเจอกับปัญหาต่างๆ ที่ต้องไปสู้กันในศาลและสภาคองเกรส

การปิด USAID ทั้งหมดอาจต้องมีการลงมติจากรัฐสภา ซึ่งพรรครีพับลิกันของทรัมป์มีเสียงข้างมากเพียงเล็กน้อยในทั้งสองสภา ทางเลือกหนึ่งที่รายงานว่ากำลังพิจารณาโดยรัฐบาลทรัมป์ คือการทำให้ USAID เป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศ แทนที่จะเป็นหน่วยงานของรัฐบาลเอง ซึ่งมีสิทธิเป็นของตัวเอง

ข้อตกลงแบบนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลย ในปี 2563 นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของสหราชอาณาจักรในขณะนั้นได้รวมกระทรวงพัฒนาการระหว่างประเทศเข้ากับกระทรวงต่างประเทศ

รัฐมนตรีกล่าวในเวลานั้นว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้การใช้จ่ายระหว่างประเทศสามารถสนับสนุนเป้าหมายนโยบายต่างประเทศที่กว้างขึ้นของรัฐบาลได้ แต่บรรดาผู้วิจารณ์เตือนว่าการดำเนินการดังกล่าวจะลดความเชี่ยวชาญในภาคส่วนการช่วยเหลือ และส่งผลกระทบต่อสถานะและอิทธิพลในต่างประเทศของสหราชอาณาจักร

ผลกระทบถ้าหาก USAID ถูกปิดตัวลง

เมื่อพิจารณาจากจำนวนเงินทุนที่ไม่สมส่วนที่มาจากสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้เงินดังกล่าวจะส่งผลไปทั่วโลกแน่นอน

กิจกรรมของ USAID มีตั้งแต่การมอบแขนขาเทียมให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บในยูเครน, การขจัดทุ่นระเบิด และ ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในแอฟริกา ดังนั้นผลกระทบอาจขยายวงกว้างไปทั่วโลก

หลังจากมีการประกาศตรึงการใช้จ่ายในต่างประเทศเป็นเวลา 90 วัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ กล่าวว่า “เงินทุกดอลลาร์” จะต้อง “ได้รับการพิสูจน์” ด้วยหลักฐานว่าเงินเหล่านั้นทำให้สหรัฐฯ มีความปลอดภัย แข็งแกร่ง และเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น

นักการเมืองพรรคเดโมแครต เรียกการเคลื่อนไหวนี้ว่า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และได้กล่าวว่าพวกเขาอาจจะทำร้ายความมั่นคงของชาติ โดยได้อ้างอิงถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำในซีเรีย ซึ่งรับผิดชอบดูแลนักรบรัฐอิสลามหลายพันคน เกือบจะลาออกจากงาน เนื่องจากสหรัฐฯ ระงับเงินทุนชั่วคราว

ทรัมป์ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าต้องการให้การใช้จ่ายในต่างประเทศสอดคล้องกับแนวทาง “อเมริกาต้องมาก่อน” ของเขา ภาคการพัฒนาระหว่างประเทศจึงต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีคำถามว่าสหรัฐ จะใช้จ่ายในต่างประเทศเป็นจำนวนเท่าใดในปีต่อๆ ไป ขณะที่มัสก์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์กำลังพยายามจะตัดงบประมาณของรัฐบาลเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

ที่มา: https://www.bbc.com/news/articles/clyezjwnx5ko

ร่วมแสดงความคิดเห็น