มีอะไรอยู่ในชเวก๊กโก

ทีมข่าวของ BBC ได้ถูกเชิญให้ไปทำข่าวในเมือง ชเวก๊กโก เนื่องจาก ยาไต บริษัทของจื้อเจียง ต้องการจะล้างภาพของเมืองที่ถูกมองว่าเป็นเมืองที่ชั่วร้ายออกไป

มีอะไรอยู่ในชเวก๊กโก

การเข้าไปในเมืองนั้นค่อนข้างยาก ตั้งแต่ที่มีการก่อสร้างเริ่มต้นในปี 2560 ชเวก๊กโกเป็นพื้นที่ต้องห้าม มีการจำกัดคนเข้าเมือง

เนื่องจากสงครามกลางเมืองที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นในพม่า หลังจากการยึดอำนาจในปี 2564 การเข้าไปในเมืองยิ่งเพิ่มความยากมากขึ้นไปอีก ใช้เวลากว่า 3 วัน จากศูนย์กลางการค้าของประเทศย่างกุ้ง ผ่านหลายจุดตรวจ, ถนนถูกปิดกั้นและมีความเสี่ยงสูงที่จะติดอยู่ในเหตุการณ์ปะทะด้วยอาวุธ เพื่อเข้าไปในเมือง แต่ถ้าหากข้ามจากประเทศไทยเข้าไปจะใช้เวลาไม่กี่นาที แต่จำเป็นจะต้องวางแผนดีๆ เพื่อหลบหลีกตำรวจและทหารสายตรวจของไทย

เพื่อนร่วมงานของ จื้อเจียง พาเราชมเมืองรอบๆ โดยเน้นที่ ถนนที่ถูกปูใหม่, วิลล่าสุดหรู และ ต้นไม้ต่างๆ “คุณจื้อเจียง เชื่อในการสร้างเมืองสีเขียว” ไกด์ของเรามีชื่อว่า หวาง ฟู่กุ้ย ผู้ที่บอกว่าเขาเคยเป็นตำรวจจากเมืองกว่างซี ทางตอนใต้ของจีน เขาเคยถูกจำคุกที่ประเทศไทยในข้อหาที่เขากล่าวว่า เป็นข้อหาฉ้อโกงที่ถูกกุขึ้น จากนั้นเขาก็ได้รู้จัก จื้อเจียง และ กลายเป็นหนึ่งในทหารที่เขาไว้ใจที่สุด

เมื่อมาถึง ชเวก๊กโกมีลักษณะเหมือนกับเมืองหนึ่งในต่างจังหวัดของจีน ป้ายที่ติดอยู่บนอาคารต่างๆเป็นภาษาจีน และ มีขบวนรถที่ถูกผลิตขึ้นในประเทศจีนเข้าและออจากอาคารอย่างต่อเนื่อง

ไกด์ของเราค่อนข้างคลุมเครือในเรื่องของผู้เช่าของตึกต่างๆ “คนรวย จากหลายๆประเทศ พวกเขาเช่าวิลล่าอยู่กัน” เมื่อถามถึงธุรกิจที่พวกเขาทำ เขาตอบว่า “หลายอย่าง โรงแรม, คาสิโน”

อย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่ที่เราเห็นคือคนกะเหรี่ยง หนึ่งในชนกลุ่มน้อยในพม่า ผู้ที่เข้ามาที่ชเวก๊กโกทุกวันเพื่อมาทำงาน เราเห็นคนที่มาจากต่างประเทศเป็นจำนวนน้อย ผู้ซึ่งน่าจะเป็นลูกค้าของโรงแรมและคาสิโน

ไกด์ของเรากล่าวว่าไม่มีการหลอกลวงฉ้อฉลในชเวก๊กโก เนื่องจากในเมืองมีป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนข้อห้ามไว้ในภาษา จีน, พม่า และ อังกฤษว่า ไม่อนุญาตให้บังคับขู่เข็นแรงงาน และ “ธุรกิจออนไลน์เหล่านั้น” ควรจะออกจากเมืองไป แต่เรายังคงได้รับการรายงานจากผู้คนในพื้นที่ว่าธุรกิจต้มตุ๋นเหล่านั้นยังคงทำงานอยู่

ความบ้าคลั่งในการลงทุนของจีนที่ไม่มีการควบคุมในชายฝั่งกัมพูชาเกิดขึ้นเมื่อทศวรรษที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีการย้ายที่มาที่ดินแดนรกร้างไร้กฎหมายของชายแดนพม่า พร้อมกับบริษัทต้มตุ๋นจากจีน ที่ได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า รอบๆบริเวณนั้น กองทัพพม่า,กองทัพกบฏที่ปะปนกันไปหลายๆเผ่า และ ผู้บัญชาการทหารหลายๆคน กำลังต่อสู้กันเพื่ออำนาจเหนือรัฐกะเหรี่ยง

ธุรกิจต้มตุ๋นกลายเป็นธุรกิจที่สร้างเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีพนักงานที่มาจากจีน, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, แอฟริกา และ อนุทวีปอินเดีย หลายพันคน อยู่ในพื้นที่มีกำแพงล้อมรอบเพื่อหลอกลวงต้มตุ๋นผู้คนทั่วโลกเพื่อเงิน

พนักงานหลายคนเต็มใจ แต่ หลายคนถูกจับตัวและบังคับให้ทำงาน ผู้คนที่สามารถหนีมาได้ บอกเล่าเรื่องราวอันน่าสยดสยองของการทรมานและการทุบตี บางส่วนมาจากชเวก๊กโก

เราได้มีโอกาสในการคุยกับเหยื่อที่เป็นหญิงสาวซึ่งทำงานในศูนย์ต้มตุ๋นสองสัปดาห์ก่อนที่จะได้เข้าไปในเมือง เธอกล่าวว่า เธอไม่มีความสุขเลย และ ไม่ได้รับการอนุญาตให้ออกจากงาน

เธอกล่าวว่า งานของเธอ คือส่วนหนึ่งของทีมโมเดลลิ่ง ซึ่งทำให้หญิงสาวส่วนใหญ่นั้นน่าดึงดูด เพื่อที่จะติดต่อกับเหยื่อที่มีความเป็นไปได้ในการถูกหลอก เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ทางออนไลน์ที่ใกล้ชิด

“เป้าหมายคือคนแก่ คุณแค่เริ่มการสนทนา อย่างเช่น ‘คุณหน้าเหมือนเพื่อนฉันเลย’ ถ้าคุณสามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้แล้ว คุณก็ส่งรูปภาพของคุณเพื่อกระตุ้นพวกเขา อาจจะเป็นรูปที่ใส่ชุดนอน” เธอ กล่าว

จากนั้นเธออธิบายว่าการสนทนาจะเปลี่ยนเป็นแผนการ “รีบรวย” เหมือนกับการลงทุนในเหรียญคริปโต ซึ่งหญิงสาวหลายคนอ้างว่าวิธีนี้แหละที่พวกเขาใช้ในการทำเงินมหาศาล

“เมื่อไหร่ก็ตามที่เขารู้สึกสนิทกับคุณ คุณก็ส่งต่อให้แผนกแชท พนักงานแชทก็จะส่งข้อความโน้มน้าวให้คนที่ถูกหลอกซื้อหุ้นในบริษัทคริปโต” เธอกล่าว

ระหว่างเวลาสั้นๆที่เราอยู่ในชเวก๊กโก เราได้เห็นสิ่งที่บริษัทยาไตต้องการให้เราเห็น ถึงอย่างนั้น สิ่งนั้นก็เป็นหลักฐานว่าขบวนการหลอกลวงยังคงทำงานอยู่ และอาจจะยังคงเป็นธุรกิจหลักของเมืองนี้ด้วย

เราถูกปฏิเสธทุกการร้องขอที่จะเข้าไปสำรวจในอาคารสำนักงานที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ โดยถูกบอกว่า อาคารเหล่านั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัว เราถูกนำทางโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอดเวลา จากทหารอาสาสมัคร ซึ่งควบคุมในพื้นที่นี้ในชายแดน

เราได้รับอนุญาตให้ถ่ายวิดีโอการก่อสร้าง และ ข้างนอกของอาคาร แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ หน้าต่างของอาคารหลายๆบานมีกรงอยู่ข้างใน

“ทุกคนในเมืองชเวก๊กโกรู้ว่าเกิดอะไรข้างในเมือง” หญิงสาวผู้ที่เคยทำงานอยู่ในเมืองกล่าว

เธอปฏิเสธข้ออ้างของ ยาไต ที่ว่าไม่มีขบวนการต้มตุ๋นอยู่ในเมืองแล้ว

“โกหกทั้งเพ ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่รู้สิ่งเหล่านี้ ขบวนการเหล่านั้นกำลังทำงานกันอยู่บนตึกสูงเหล่านั้น ไม่มีใครไปที่นั่นเพื่อจะสนุกหรอก ไม่มีทางที่ยาไตจะไม่รู้”

เราได้รับอนุญาตให้เข้าไปสำรวจคาสิโนแห่งหนึ่งได้ โดยเป็นคาสิโนที่ถูกบริหารโดยชาวออสเตรเลีย เขากล่าวว่าเขาจะปิดที่นี่ลงแล้ว

ข้างใน ลูกค้าทั้งหมดเป็นชาวกะเหรี่ยง กำลังเล่นพนัน ซึ่งเป็นเกมประเภทอาร์เคดที่ได้รับความนิยม โดยผู้จัดการชาวออสเตรเลียกล่าวว่า คาสิโนแห่งนี้ถูกสร้างเมื่อ 6 ปีก่อน เคยเป็นที่นิยม และ สร้างกำไรมากมาย เนื่องจากในตอนนั้นยังมีคาสิโนแค่ 2 แห่ง ก่อนสงครามกลางเมือง แต่ในตอนนี้มีอย่างน้อย 9 แห่ง ไม่มีลูกค้ามากพอ

ธุรกิจที่ทำเงินจริงกลับเป็นการพนันออนไลน์ โดยเขากล่าวว่า เป็นธุรกิจหลักของชเวก๊กโก

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสืบเส้นทางการเงินของธุรกิจพนันออนไลน์ และ กิจกรรมทางอาชญากรรมโดยตรง เช่น การฟอกเงินและการต้มตุ๋น โดยปกติจะดำเนินการจากความร่วมมือเดียวกันและโดยทีมเดียวกัน ถ้าเราถามยาไตเกี่ยวกับรายได้ของพวกเขา พวกเขาคงไม่บอกเราหรอก ไม่แม้แต่จะใบ้ มันเป็นเรื่องส่วนตัว

บริษัทดังกล่าวนั้นจดทะเบียนในฮ่องกง, พม่า และไทย แต่นี้ถือว่ายังน้อยถ้าเทียบกับบริษัทผิดกฎหมายอื่นๆ ซึ่งมีรายได้เพียงน้อยนิดผ่านบริษัทเหล่านั้น

ที่มา: https://www.bbc.com/news/articles/c04nx1vnw17o

ร่วมแสดงความคิดเห็น