ทำไมคนไทยไปทำงานต่างประเทศ

ทำไมคนไทยไปทำงานต่างประเทศเยอะจัง? อาจจะเป็นคำถามของคนไทยหลายๆคนที่ลำบากตรากตำพยายามเรียน ทำงาน เพื่อหาเลี้ยงชีพตัวเอง ให้ผ่านพ้นความทุกยากลำบากไปได้ แต่ในทางกลับกัน มีผู้คนมากมายที่ไม่อยากทำงานในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง เพราะอะไร? ประเทศไทยให้อะไรกับคนเหล่านี้ไม่ได้? จนถึงขนาดที่ยอมทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนไปทำงานต่างถิ่นที่ไม่คุ้นเคย แม้ว่าจะมีความอันตราย ไม่ปลอดภัย แต่ก็ยอมเต็มใจไป

มีประเทศไหนบ้างที่เราเคยได้ยินมาว่าคนไทยส่วนมากนั้นเดินทางไปทำงานที่นั่น ถ้าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ต้องตอบคำถามนี้ เขาก็คงจะตอบว่าประเทศ ซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากฟังเพลงคาราบาวมา แต่ถ้าเด็กรุ่นนี้ตอบคำถามนี้ เขาคงจะตอบว่า เกาหลี เพราะได้ยินจากข่าวสารในทุกช่องทาง แต่นอกจาก 2 ประเทศนี้แล้ว หากเราได้ดูข่าวในช่วงนี้ เราก็จะได้รับรู้ว่า มีแรงงานไทยไม่น้อยที่ไปที่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำงาน ในชเวก๊กโก ชายแดนไทย-พม่า แม้ว่างานที่ทำนั้นเป็นงานเกี่ยวกับการต้มตุ้น และ ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อีก ถ้าหากรู้ว่าการทำงานในต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแถมเสี่ยงอันตราย แล้วแรงงานไทยไปทำไม?

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชาวต่างชาติที่ได้รับการช่วยเหลือจากฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ข้ามมายังอำเภอแม่สอด ประเทศไทย จำนวน 260 คน ตำรวจออกมาระบุว่า ในจำนวน 260 คน มีเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์เพียงคนเดียว ตัวเลขดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์เฉพาะศูนย์ และเป็นความเห็นส่วนตัว

“สำหรับคนที่ถูกหลอกข้ามประเทศไปจริงๆ มีสัดส่วนที่น้อยมากเพียง 1% เช่น กรณีของดาราจีน นอกนั้นเป็นการเดินทางไปด้วยความเต็มใจ” พล.ต.อ. ธัชชัย กล่าว

จะเห็นได้ว่า ในจำนวนดังกล่าว มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ แม้จะเป็นชาวต่างชาติ แต่ในพื้นที่ของชายแดนไทย-พม่ากลับเป็นพื้นที่ที่ดึงดูดแรงงานต่างประเทศให้เข้าไปทำงาน ซึ่งไม่ใช่งานที่ถูกกฎหมาย ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวก็มีการทรมาน และ การทุบตีเกิดขึ้นด้วย แต่ก็ยังมีคนที่พร้อมเต็มใจเข้าไปทำงานที่นั่นอยู่ดี เพื่อแลกกับอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถได้รับจากที่ที่เขาจากมา

ผิดกฎหมายแต่เต็มใจ

สถิติจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงยุติธรรม ประเทศเกาหลีใต้ ระบุว่า ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้จำนวนกว่า 2.14 ล้านคน เป็นคนไทยจำนวน 195,569 คน แบ่งเป็น ผู้ที่พำนักถูกกฎหมาย 48,129 คน พำนักผิดกฎหมาย 147,440 คน และวีซ่าทำงานหมดอายุ 5,271 คน จะเห็นได้ชัดว่ามีคนที่พำนักผิดกฎหมายที่เป็นคนไทยอย่างมากมาย ทำไมถึงไม่ทำให้ถูกกฎหมาย?

ถ้าหากจะตอบคำถามเรื่องนี้ จะต้องอธิบายในเรื่องของ EPS (Employment Permit System) หรือ ระบบการส่งแรงงานไปทำงานที่เกาหลีภายใต้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลเกาหลีและรัฐบาลของประเทศต้นทาง รัฐบาลเกาหลีพัฒนาระบบนี้มาเพื่อแก้ปัญหาการโดนเอารัดเอาเปรียบจากนายหน้าจัดหางาน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการฉ้อโกงด้วยการเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น

โดยแรงงานไทยสามารถเดินทางไปทำงานในธุรกิจขนาดกลางและเล็กได้ (SME) โดยแรงงานจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของสำนักบริการพัฒนาบุคลากรแห่งเกาหลี (Human Resources Development Service of Korea: HRD Korea) โดยระบบ EPS ระบุว่าผู้ที่จะเดินทางไปทำงานที่เกาหลีได้จะต้องเป็นชายหรือหญิงอายุ 18-39 ปีบริบูรณ์ ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา สุขภาพแข็งแรง ไม่มีประวัติอาชญากรรม และไม่ใช่บุคคลต้องห้ามเดินทางออกนอกประเทศหรือห้ามเดินทางเข้าประเทศเกาหลี

EPS เป็นข้อกำหนดที่ทำให้ในประเทศเกาหลี มีแรงงานที่ผิดกฎหมายอยู่เยอะ หรือที่เราเรียกกันว่า “ผีน้อย” เนื่องจากมีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในการจ้างงานอย่างถูกกฎหมายของเกาหลีได้ เนื่องจากมีขั้นตอนเยอะ และไม่ได้การันตีว่าจะถูกเลือกเมื่อสอบผ่านแล้ว ข้อกำจัดทางอายุโดยกำหนดไว้ว่าอายุต้องไม่เกิน 39 ปี ทำให้คนที่มีอายุเกินแล้วถ้าหากอยากอยู่ต่อก็ต้องอยู่ต่อโดยผิดกฎหมาย

“ตอนนั้นช่องทางไหนที่มันไปได้เร็ว ไปได้เลย เราก็ยอม เป็นผีเราก็ยอม ค่าใช้จ่ายมันจี้เราอยู่ เราจะอยู่นิ่งไม่ได้” หญิงวัย 42 ปี ตัดสินใจเดินทางไปทำงานแบบผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้เมื่อ 4 ปีก่อน กล่าวกับ Thai PBS ในวันที่ 23 ตุลาคม 2567

มีมาตั้งแต่โบราณกาล

ถ้าหากเคยฟังเพลงคาราบาว หลายๆเพลงของคาราบาวจะกล่าวถึงการหนีจากประเทศไทยไปทำงานในซาอุ เช่นเพลง ซาอุดร หนอยแน่ะ และ หรอย สะท้อนให้เห็นว่าสมัยก่อนในประเทศไทยก็มีการเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ สิ่งที่เราทุกคนคงอยากจะรู้คือ ทำไมต้องไปซาอุ

นายวิชัย จันทร์เพ็ญ อายุ 76 ปี อดีตแรงงานไทยที่ได้ไปทำงานซาอุดิอาระเบียในตำแหน่งคนขับรถ 9 ปี โดยในช่วงที่นายวิชัยทำงานขับรถบรรทุกดัมพ์ได้ค่าแรงเดือนละ 2,000 ริยาด จะมีค่าเที่ยวและค่าอาหาร รวมแล้วรายได้ต่อเดือนประมาณ 3-4 หมื่นบาท สวัสดิการต่างๆ ก็มีให้ ค่าอาหาร การรักษาพยาบาลฟรี ซึ่งจะมีโรงพยาบาล ตามเส้นทางที่ขับรถไปสามารถเข้าไปรักษาได้ตลอด โดยนายวิชัย แนะนำถ้ามีโอกาสควรไป แต่อย่าทำผิดกฎหมาย เพราะการทำผิดกฎหมายก็ติดคุก นอกจากจะติดคุกยังโดนโบยด้วย และไม่ใช่ว่านายจ้างทุกคนจะนิสัยดี นายจ้างบางคนก็ลอยแพแรงงาน เพราะกิจการที่ทำขาดทุน ไม่มีเงินจ่ายค่าแรง

ประเทศไทยให้อะไรกับคนที่ทำงานในต่างประเทศไม่ได้

“ใดๆ คือเงินล้วนๆ เลยจ้า ที่ทุกคนยอมสู้” คือหนึ่งในคอมเมนต์ ของแรงงานที่เดินทางไปทำงานที่เกาหลีใต้ จากกรณีต่างๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการเดินทางไปทำงานต่างประเทศนั้นก็มีข้อจำกัดมากมาย ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายกว่าการทำงานที่ประเทศไทยเลย แต่ทำไมมีคนไทยหลายคนเลือกที่จะไปลำบากเพิ่ม เรื่องเงินอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การตัดสินใจนั้นง่ายขึ้น แล้วทำไมประเทศไทยถึงให้เงินค่าตอบแทนได้ไม่มากเท่าที่ควร มากเท่าที่จะสามารถดึงแรงงานของประเทศตัวเองให้อยู่กับประเทศไทยได้

สิ่งที่แรงงานที่ต้องระหกระเหินไปที่ต่างประเทศนั้นต้องการที่แท้จริงอาจไม่ใช่ค่าตอบแทนที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ไปวันๆ แต่แรงงานเหล่านั้นต้องการค่าตอบแทนที่ทำให้พวกเขาสามารถลืมตาอ้าปาก และสร้างสถานะทางการเงินให้มั่นคง โดยไม่ต้องดิ้นรนในการหาเงินมากจนเกินไป ซึ่งการที่มีคนจำนวนมากตั้งใจทำผิดกฎหมายเพื่อให้ได้ทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนที่จะลืมต้าปากได้ สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงมีสิ่งที่แรงงานต้องการแต่ไม่สามารถให้ได้อยู่ แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลเช่นกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนอยากจะทำผิดกฎหมายเพื่อให้ได้เงินมากขึ้น

แต่เราก็ต้องมาทบทวนกันอีกครั้งว่า ทำไมคนของประเทศไทยถึงไม่อยากอยู่ในประเทศไทย ทำไมคนไทยจึงไม่อยากทำงานในประเทศไทย ทั้งๆที่เป็นประเทศบ้านเกิด และ สิ่งที่ต้องขบคิดให้แตกฉานคือ วิธีการแก้ปัญหา ให้คนไทยอยากอยู่ในประเทศไทย และ อยากทำงานในประเทศไทย

ที่มา: https://www.thaipbs.or.th/news/content/342207

https://www.one31.net/news/detail/52732
https://www.the101.world/illegal-thai-workers-in-south-korea

ร่วมแสดงความคิดเห็น