ร.ม.ต. ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายขับเคลื่อนอาชีวศึกษา ปีงบประมาณ 2569

ร.ม.ต. ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายขับเคลื่อนอาชีวศึกษา ปีงบประมาณ 2569 “อาชีวะต้องเป็นพระเอกของประเทศ”


วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนการศึกษา “เรียนดี มีคุณธรรม” ณ ห้องมงกุฎเพชรแกรนด์บอลรูม โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมี นายองอาจ วงษ์ประยูร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาพร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร.วัชรพงศ์ ฝั้นติ๊บ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ และรักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 คน เข้าร่วมการประชุมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เพื่อรับนโยบายขับเคลื่อนการศึกษา “เรียนดี มีคุณธรรม” ในครั้งนี้

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การอาชีวศึกษาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงสายช่างเทคนิค แต่ยังครอบคลุมสาขาวิชาด้านสิ่งทอ การตัดเย็บ อาหารและโภชนาการ รวมถึงการบริการ (Hospitality) ซึ่งล้วนเป็นสาขาที่สร้างรายได้และมีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน จึงอยากให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของอาชีวศึกษาให้มากขึ้น อีกทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันและเปิดโอกาสให้เยาวชนกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอาชีวศึกษา และเรียนในสาขาที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อให้ “จบแล้วมีงานทำอย่างแท้จริง” เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันให้“อาชีวศึกษาเป็นพระเอกของประเทศ” โดยเน้นการสร้างค่านิยมใหม่ให้สังคมเห็นว่า การเรียนสายอาชีพมีคุณค่าไม่แพ้สายสามัญ เป็นทางเลือกที่มั่นคง มีงานทำ และตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ และ “ต้องปรับเปลี่ยนค่านิยมของผู้ปกครองที่มองการเรียนสายอาชีพเพราะผู้จบระดับ ปวช. หรือ ปวส. สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ทันทีและมีรายได้มั่นคง ซึ่งในหลายประเทศทั่วโลก การศึกษาสายอาชีพได้รับการยอมรับเทียบเท่ากับสายสามัญ จึงอยากชวนทุกฝ่ายร่วมกันส่งเสริมให้เยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มที่หลุดจากระบบการศึกษา หรืออยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกเส้นทางการเรียน ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะอาชีพและสร้างอนาคตที่มั่นคง”

ในส่วนวิทยฐานะครูอาชีวศึกษา ที่ผู้ประเมินต้องมาจากสายวิชาชีพเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในลักษณะงานอย่างแท้จริง พร้อมทั้งปรับหลักเกณฑ์ให้ดำเนินการได้รวดเร็ว ตรงสายงานมากขึ้น เพื่อให้ครูอาชีวะทุกคนมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ มีรายได้ที่เหมาะสม และเกิดความภาคภูมิใจในการทำงานและเดินหน้าโครงการลดภาระหนี้สินครู เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น

ในโอกาสนี้ รมว.ศธ. ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั่วประเทศ ร่วมสะท้อนความคิดเห็นและเสนอประเด็นปัญหา เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนานโยบายในระยะต่อไป

ด้าน นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการจากปีงบประมาณที่ผ่านมา และรับฟังนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนการพัฒนาอาชีวศึกษาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั่วประเทศ พร้อมทั้งมอบนโยบาย “การพัฒนาอาชีวศึกษาของ สอศ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569” แก่คณะผู้บริหารที่เข้าร่วมประชุมฯในครั้งนี้

ในการประชุมฯครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมบรรยายแนวทางพัฒนาอาชีวศึกษา ดังต่อไปนี้

นายสง่า แต่เชื้อสาย รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หัวข้อเรื่อง การขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอาชีวศึกษาฯ ด้านวิชาการและภารกิจที่อยู่ในการกำกับดูแล

นายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หัวข้อเรื่อง การขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอาชีวศึกษาฯด้านงบประมาณและภารกิจที่อยู่ในการกำกับดูแล

นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หัวข้อเรื่อง การขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอาชีวศึกษาฯ ด้านทรัพยากรบุคลากรและภารกิจที่อยู่ใน

ร่วมแสดงความคิดเห็น