ทีเส็บ เร่งยกระดับมาตรฐานสู่ความยั่งยืนในภาคเหนือตอนบนเพื่อรองรับงานไมซ์ เตรียมประกาศโรคประจำถิ่น (Endemic)
วันที่ 23 มิถุนายน 2565 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.เร่งยกระดับมาตรฐาน สู่ความยั่งยืน ในภาคเหนือตอนบน เพื่อรองรับงานไมซ์ เตรียมความพร้อมประเทศไทย ประกาศโรคประจำถิ่น (Endemic) เร็วๆ นี้
นางอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญของทุกอณูของธุรกิจไม่เพียงแต่งานไมซ์ ซึ่งมาตรฐานที่รองรับการกลับมาของธุรกิจแน่นอนคือสถานที่การจัดงาน (Venue) ที่มีห้องประชุม พื้นที่จัดแสดงกิจกรรมพิเศษ ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ ที่เรียกว่า Special Event Venue เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมที่ผู้จัดงานส่วนมากเลือกและสรรหา เพื่อตอบโจทย์การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า ดังนั้น มาตรฐานที่ ทีเส็บมุ่งยกระดับไม่เพียงแต่สถานที่การจัดงาน แต่ยังเน้นการวางยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนไมซ์บุคลากรที่มีคุณภาพสู่ภูมิภาค สิ่งสำคัญที่สุดคือคนในพื้นที่ ปรับกลยุทธ์กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการบูรณาการร่วมกัน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน สร้างงาน พัฒนางานที่มีอยู่ให้มีความใหม่ สร้างสรรค์ และเพิ่มเสน่ห์ของอัตลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ที่มีความเหมือนแต่มีความต่าง ดึงเอกลักษณ์ออกมา ใช้พื้นที่การจัดงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายสำราญ สอนผึ้ง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายหน่วยตรวจ สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ได้กล่าวถึง การกระตุ้นมาตรฐานให้กับภาคเหนือ การจัดงานในต่างประเทศที่นำมาตรฐานมาใช้ รวมถึงสถานที่จัดงานจะต้องมีเทรนด์ของมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ โดยได้ยกตัวอย่างการจัดงานที่ใช้มาตรฐาน ISO 20121:2012 ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Beijing2022 ที่ประเทศจีน ซึ่งได้นำเอามาตรฐานการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืนประเทศไทย (TSEMVS: Thailand Sustainable Event Management Standard) มาเป็นแนวคิดในการจัดงานฯ อีกทั้งให้สถานประกอบการมองหาจุดขายของตัวเองให้เจอเพื่อสร้างความแตกต่าง อีกทั้งสถาบันฯ ยังเป็นหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาและการตรวจรับรองมาตรฐานให้กับโรงแรมและสถานที่จัดงานต่างๆ อีกด้วย
นายไพศาล อุทัยยศ นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจไมซ์และออแกไนซ์เซอร์ภาคเหนือตอนบน ได้นำเสนอถึง จุดขายในการจัดงานภายใต้แนวคิด วิถีไมซ์เมือง “กิ๋นลำ อยู่ม่วน” โดยเป็นการนำเสนอรูปแบบการจัดประชุม หรือการจัดงาน Event ที่นำเอาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของภาคเหนือ มาเป็นแนวคิดหลักในการจัดงาน เพื่อที่จะดึงดูดภาคเหนือให้เป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงาน ซึ่งคำว่า “กิ๋นลำ” นั้นครอบคลุมในแง่มุมของการมีอาหารพื้นถิ่นที่มีรสชาติอร่อยและมีความหลากหลาย “อยู่ม่วน” มีนัยยะความหมายถึงการอยู่อย่างสุขกาย สบายใจภายใต้วิถีแบบล้านนา มีการบริการของผู้ประกอบการด้านไมซ์ที่ได้มาตรฐาน และมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ตัวอย่างงานที่สอดคล้องกับ “กิ๋นลำ อยู่ม่วน” โดยยกตัวอย่างงานที่เป็นงานระดับชาติ หรือนานาชาติ ทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อาทิเช่น งานเกษตรภาคเหนือ ครั้งที่ 10 “Northern AGRI CMU Expo 2022” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2565 นี้

นายภูณัช ธนาเหล่าพานิช นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ ตอนบน กล่าวถึง ประเด็นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สถานประกอบการมีปรับตัวอย่างไรและหลังโควิคคลี่คลายได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพื่อรองรับการเดินทางของกลุ่มนักธุรกิจไมซ์ ซึ่งภาคเหนือ มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และมีธรรมชาติ ที่หลากหลาย มีเส้นทางการท่องเที่ยวที่งดงาม ที่จะสามารถดึงดูดคนให้มาใช้บริการมากขึ้นได้ รวมถึง ความพร้อมของผู้ประกอบการในภาคเหนือในการรองรับการจัดเดินทาง โดยมีการคมนาคมที่สะดวกสบาย มีที่พักหรือโรงแรมได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย สถานที่รองรับการจัดงานมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน และสามารถอำนวยความสะดวกสบายให้กับนักธุรกิจไมซ์ทั้งภายในและต่างประเทศ
นางละเอียด บุ้งศรีทอง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท และที่ปรึกษา คณะกรรมการสมาคมโรงแรมไทย ได้ยกตัวอย่าง ความพร้อมโรงแรมรติล้านนา เชียงใหม่ ได้มีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองภายใต้สถานการณ์โควิด -19 ซึ่งทางโรงแรมนั้นได้มีการปรับตัวในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการนำเอามาตรฐานอย่าง 2HY มาปรับใช้ในการให้บริการและการพัฒนาระบบการจัดการของโรงแรม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงดึงดูดให้กับผู้คนจากทั่วโลกมาใช้บริการ อีกทั้งยังได้ให้พนักงานมีส่วนร่วมและเรียนรู้ไปพร้อมกัน

วิถีไมซ์เมือง “กิ๋นลำ อยู่ม่วน” จึงแสดงถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมไมซ์ภาคเหนือ ในการที่จะรองรับกลุ่มธุรกิจไมซ์ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ โดยจะเป็นแนวทางที่สำคัญในการพัฒนา การปรับตัว และใช้กลยุทธ์ เพื่อสร้างมาตรฐานให้กับธุรกิจของผู้ประกอบการไมซ์ในภาคเหนือ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 คลี่คลายลง เพื่อให้เกิดการจัดงานในรูปแบบวิถีใหม่ แบบ New Normal ซึ่งจะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในทุกๆ ด้าน และเป็นการ “สร้างมาตรฐาน TMVS บนเส้นทางไมซ์สไตล์ล้านนา สู่การพัฒนาอุตสาหกรรมให้ยั่งยืน”
นอกจากนี้คุณอรชร ได้กล่าวเสริมว่า “ทีเส็บได้พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ เพื่อยกระดับองค์ความรู้ความสามารถของบุคลากรไมซ์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เรียนรู้ได้ทุกวันทุกเวลา เพียงคลิกไปที่ MICE e-learning จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาใช้สถานที่การจัดงานว่ามีบุคลากรอย่างมืออาชีพคอยบริการในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย”




ร่วมแสดงความคิดเห็น