ข่าวปลอม! เส้นสีขาวในตัวหอยแมลงภู่คือพยาธิ

ข่าวปลอม! กรณีที่มีข้อความชวนเชื่อเรื่องเส้นสีขาวในตัวหอยแมลงภู่คือพยาธิ

วันที่ 2 ก.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีข้อความชวนเชื่อเรื่องเส้นสีขาวในตัวหอยแมลงภู่คือพยาธิ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมอนามัย หน่วยงานสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีมีผู้โพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับสุขภาพโดยระบุว่า กระเพาะหรือเส้นขาวๆ ของหอยแมลงภู่เป็นแหล่งรวมของหนอนพยาธิ ควรหลีกเลี่ยงรับประทานแม้ปรุงสุก ทางกรมอนามัย หน่วยงานสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เส้นสีขาวๆ ยาวๆ คล้ายตัวพยาธิที่พบ แท้จริงเป็นลำไส้หอย ไม่ใช่พยาธิอย่างที่เข้าใจ ซึ่งหอยแมลงภู่เป็นหอยสองฝา อยู่ในไฟลัมมอลลัสคา สีของเปลือกเปลี่ยนไปตามสภาพการอยู่อาศัย ถ้าอยู่ใต้น้ำตลอดเวลามีสีเขียวอมดำ ถ้าอยู่บริเวณน้ำขึ้นน้ำลง ถูกแดดบ้างเปลือกจะออกเหลือง เปลือกด้านนอกมีสีเขียว ส่วนท้ายจะกว้างกว่าส่วนหน้า เนื้อหอยมีสีเหลืองนวลหรือสีส้ม มีหนวดหรือเส้นใยเหนียวสำหรับเกาะหลักเรียกว่า เกสร หรือ ซัง

ทั้งนี้ ในหอยส่วนใหญ่สามารถพบจุลินทรีย์ก่อโรคได้แก่ เชื้อ วิบริโอ พาราฮิโมไลติคัส เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบเชื้อชนิดนี้ มีระยะฟักตัว 4-96 ชั่วโมง หลังจากได้รับเชื้อจากการกินอาหาร แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการจะเกิดประมาณ 15 ชั่วโมงหลังได้รับเชื้อผู้ที่ได้รับเชื้อจะเกิดอาการท้องเสีย เป็นตะคริวในช่องท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว มีไข้ จึงควรล้างทำความสะอาดให้ดีและนำมาปรุงสุกด้วยความร้อนอย่างทั่วถึงก่อนรับประทาน

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมอนามัย หน่วยงานสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ สามารถติดตามได้ที่ http://foodsan.anamai.moph.go.th/ หรือโทร. 02-590-4188

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เส้นสีขาวๆ ยาวๆ คล้ายตัวพยาธิที่พบ แท้จริงเป็นลำไส้หอยไม่ใช่พยาธิอย่างที่เข้าใจ โดยในหอยส่วนใหญ่สามารถพบจุลินทรีย์ก่อโรคได้แก่ เชื้อ วิบริโอ พาราฮิโมไลติคัส เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษได้

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น