(มีคลิป) ถกแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

YouTube video

สนง.ป.ป.ส. นำหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ถกแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นำคณะผู้แทนไทยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด กรมศุลกากร กรมองค์การระหว่างประเทศ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เข้าร่วมการประชุมหัวหน้าหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Meeting of Heads of National Drug Law Enforcement Agencies, Asia and the Pacific: HONLAP) ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) ระหว่างวันอังคารที่ 25 – วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ (UNCC) ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร ผ่านการประชุมในรูปแบบผสม ทั้งการเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองและการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีพลตรี มูฮัมหมัด อานีค ยู เรมานห์ มาลิค (Major General Muhammad Aneeq Ur Rehman Malik) จากประเทศปากีสถาน เป็นประธานการประชุม และมีผู้เข้าร่วมการประชุมจาก 38 ประเทศ

ในโอกาสนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกล่าวบรรยายพิเศษ (keynote speech) ผ่าน Video Message ในห้วงพิธีเปิดการประชุม ร่วมกับเอกอัครราชทูตกิแล็ง ดุ๊ป (H.E. Mr. Ghislain D’Hoop) ประธานคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 65 นางฆอดะห์ วาลี (Ms. Ghada Waly) ผู้อำนวยการบริหาร UNODC นายเจเรมี ดักลาส (Mr. Jeremy Douglas) ผู้แทน UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก

โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อความพยายามของ UNODC ในการจัดการประชุมครั้งนี้ และกล่าวถึงความท้าทายจากสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในภูมิภาคที่ยังคงขยายตัว แม้ในห้วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีความซับซ้อนและมีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้นจากภาวะยาเสพติดล้นตลาด เนื่องจากราคายาเสพติดลดลง แต่ความบริสุทธิ์ของยาเสพติดยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะเดียวกันพบว่ามีจำนวนผู้ใช้ยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผู้เสพยาที่มีอาการทางจิตเวชที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคม ซึ่งหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดทั้งในและนอกภูมิภาคต้องเป็นผู้นำในการสร้างหลักประกันว่าจะไม่มีใครที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทำให้สมาชิกทุกคนในสังคมมีความปลอดภัย มีสุขภาวะที่ดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แม้ว่าสถิติการจับกุมเมทแอมเฟตามีนสุงสุด จำนวน 172 ตัน ในปี 2564 ที่รวบรวมโดย UNODC เป็นการจับกุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้จำนวนรวมกว่า 1 พันล้านเม็ด และกว่าครึ่งเป็นการจับกุมในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงผลการปฏิบัติงานที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดและถือเป็นหนึ่งในวาระเร่งด่วนแห่งชาติ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารเคมี การสืบสวนขยายผลทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติด และการยึดทรัพย์สิน ตลอดจนการบูรณาการในการค้นหาผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ติดยาเสพติดที่ต้องรับการบำบัดรักษาโดยเร่งด่วนในพื้นที่ และจัดทำฐานข้อมูลเพื่อพิจารณาลำดับความรุนแรง เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาแบบสมัครใจโดยเร็ว ในส่วนเจ้าหน้าที่และข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดต้องได้รับการลงโทษอย่างเด็ดขาด

สำหรับบทบาทในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างใกล้ชิด เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยให้มุ่งเน้นประเด็นสำคัญ ดังนี้ (1) ความร่วมมือระหว่างประเทศในการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ไม่ให้ เข้าสู่แหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และการสกัดกั้นยาเสพติดบริเวณ ชายแดน เพื่อป้องกันการนำเข้ามาในประเทศและส่งผ่านไปยังประเทศที่สาม (2) การให้ความสำคัญกับมาตรการยึดทรัพย์สินเพื่อตัดวงจรทางการเงินของเครือข่ายนักค้ายาเสพติด โดยได้เพิ่มเป้าหมายการยึดทรัพย์ให้ได้มากขึ้น 10 เท่า เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2564 เป็นจำนวน 6,000 ล้านบาท สำหรับปีนี้ได้ดำเนินการยึดทรัพย์บรรลุเป้าหมายจำนวน 10,000 ล้านบาทแล้ว และในปีหน้าได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 10 เท่า เป็นจำนวน 100,000 ล้านบาท (3) การตรวจเยี่ยมพื้นที่เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และ (4) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด

นอกจากนี้ยังได้ฝากประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาด้านข้อมูลข่าวสาร การเสริมสร้างศักยภาพด้านการปฏิบัติการ ความร่วมมือทางวิชาการ และการสร้างความสมดุลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดควบคู่กันทั้งมาตรการด้านการลดอุปสงค์และการบังคับใช้กฎหมาย โดยให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นกับการลดจำนวนผู้เสพรายใหม่ รวมถึงการนำผู้เสพ ผู้ติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาให้เร็วที่สุด การลดการกระทำผิดซ้ำ และการดูแลสนับสนุนช่วยเหลือทางสังคมเพื่อให้ผู้ป่วยยาเสพติดสามารถปรับตัวและกลับไปอยู่ร่วมกับสังคมได้เป็นปกติสุข

ซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ศาล บุคลากรสาธารณสุข หน่วยงานปกครอง ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกรณีในการใช้แนวทางที่สมดุลและการบูรณาการรอบด้าน บนพื้นฐานของหลักความรับผิดชอบร่วมกัน

จากนั้นนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นำคณะผู้แทนไทยร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลแนวโน้มสถานการณ์การลักลอบค้ายาเสพติดในภูมิภาค และผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนความท้าทายที่พบ และแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับประเทศสมาชิก เพื่อสร้างความตระหนักร่วมในภูมิภาคต่อสถานการณ์ยาเสพติดในภูมิภาค โดยผลการประชุมในครั้งนี้จะนำไปจัดทำข้อเสนอแนะสำหรับ

การดำเนินงานของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาปรับปรุงมาตรการในการดำเนินงานต่อไป รวมถึงรายงานต่อคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 66 เพื่อติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดทั่วโลก

ในช่วงเย็น มีการหารือทวิภาคีไทย-ปากีสถาน โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้มอบหมายรองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายธนากร คัยนันท์ หารือกับ พลตรี มูฮัมหมัด อานีค ยู เรมานห์ มาลิค (Major General Muhammad Aneeq Ur Rehman Malik) หัวหน้าหน่วยปราบปรามยาเสพติดปากีสถาน ซึ่งฝ่ายปากีสถานได้แสดงความชื่นชมความก้าวหน้าในการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดของไทย และประสงค์ที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับฝ่ายไทยโดยเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูง การกำหนดผู้ประสานงานระดับเจ้าหน้าที่ และการจัดตั้งคณะทำงานสองฝ่ายเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะประสานความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น