(มีคลิป) โผล่เพิ่ม เหยื่อเทรดคริปโตเชียงใหม่ เสียหายกว่า 300 ล้าน

YouTube video

โผล่เพิ่มอีก เหยื่อเทรดคริปโตที่เชียงใหม่ ทยอยร้องดีเอสไอเพิ่ม พบมีแล้วกว่า 30 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้าน ขณะที่พบเบาะแส แฉย่องยักย้ายทรัพย์สิน

วันที่ 25 สิงหาคม ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงร่วมลงทุนขุด และทำกำไรกับเหรียญดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี่ ทยอยนำหลักฐานเข้าร้องเรียนเพิ่มเติม ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 กรมสอบสวนคดีพิเศษ จ.เชียงใหม่ โดยในช่วงเช้ามีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนแล้วกว่า 10 คน ทำให้ล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนแล้วกว่า 30 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 300 ล้านบาท

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ พร้อมกับรับเรื่องและสอบปากคำเบื้องต้น ในส่วนของดีเอสไอจะเปิดแบบฟอร์มให้ร้องเรียนทางออนไลน์ เพื่อความสะดวกของผู้เสียหาย เพราะทราบว่ากระจายอยู่ในหลายจังหวัด ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมและส่งเข้าดีเอสไอส่วนกลาง เพื่อให้อธิบดี ดีเอสไอ พิจารณาว่าจะสั่งเป็นคดีพิเศษหรือไม่

เจ้าหน้าที่ระบุว่าเงื่อนไขหลักที่จะพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ก็คือจะต้องมีมูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาทขึ้นไป หรือ มีผู้เสียหายมากกว่า 300 คนขึ้นไป อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าจะเข้าเงื่อนไข แต่จะต้องอยู่ที่การพิจารณาอีกครั้ง

สำหรับผู้เสียหายที่เข้าร้องเรียนที่ดีเอสไอ เขตพื้นที่ 5 ได้แนะนำให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับทางตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.ซึ่งเปิดรับเรื่องทางออนไลน์ เพื่อดำเนินการคู่ขนานระหว่างที่ยังไม่เป็นคดีพิเศษ เพื่อให้ตำรวจเข้ามาสอบสวนได้ทันที แต่หากภายหลังรับเป็นคดีพิเศษ ทางตำรวจก็จะโอนคดีมาให้กับดีเอสไอ

หนึ่งในผู้เสียหายที่เข้าร้องเรียนในวันนี้ บอกว่า ก่อนหน้านี้บริษัทดังกล่าว เปิดรับร่วมลงทุนผ่านไลน์แอด ที่เพื่อนได้ชักชวนและเธอก็ลองร่วมลงทุนกับเพื่อน ปรากฏว่าได้ผลตอบแทนจริง ต่อมาในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทเปิดเว็บไซต์และให้ลงทุนผ่านเว็บ ที่จะต้องสมัครค่าสมาชิกวีไอพีคนละ 19,999 บาท เป็นเมมเบอร์ เธอจึงสมัครและลงทุนด้วยตัวเองไปประมาณ 9 แสนบาท โดยลงโปรเจค 3 M หุ้นละ 30,000 บาท เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา จำนวนกว่า 20 หุ้น โดยหนึ่งหุ้นจะได้เงินปันผล 14,000 เป็นเงินทุนคืน 10,000 บาท และ เงินปันผล 4,000 บาท หลังจากลงทุนไปได้คืนมาแค่ครั้งเดียว เมื่อหักทุนที่ลงไปแล้ว ตอนนี้ยังเหลือเงินเงินทุนค้าอยู่กับบริษัทอีก 588,000 บาท ที่ผ่านมาพยายามติดต่อขอเงินคืนแต่ก็ไม่ได้ จึงเข้าร้องเรียนกับดีเอสไอ หวังจะได้เงินที่ค้างไว้คืนมาก็พอ ส่วนที่มีข่าวว่าชายคนดังกล่าว พยายามนัดเจรจาไกล่เกลี่ย เชื่อว่าคงเป็นรายเล็ก ๆ ที่มีเงินไม่มาก เพื่อลดจำนวนผู้เสียหายหากกลายเป็นคดีขึ้นมา

ส่วนความเคลื่อนไหวของหนุ่มที่ถูกร้องเรียน ล่าสุดวานนี้ได้ประกาศขายรถหรู ทั้งเฟอรารี่ แรมโบกินี่ และ เบนท์ลี่ ขณะที่ทีมข่าวได้ข้อมูลมาว่า มีการถอนเงินออกจากบัญชีของชายคนนี้ 8 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21-22 สิงหาคมที่ผ่านมา และเตรียมจะถอนอีก 18 ล้านบาท ขณะที่เพจดัง แฉเพิ่มว่าเจ้าตัวพร้อมครอบครัวอยู่ในกรุงเทพฯ และ ตอนนี้กำลังไล่ซื้อ Crypto ให้ได้มากที่สุด คาดว่าเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบทรัพย์สิน

ร่วมแสดงความคิดเห็น