(มีคลิป) กรมศิลป์ฯ ชี้แนวกำแพงพังถล่ม เป็นโบราณสถาน

YouTube video

กรมศิลป์ฯ ชี้แนวกำแพงพังถล่มเป็นโบราณสถาน แม้สร้างขึ้นใหม่ หลังนักวิชาการโพสต์ดราม่า ประตูช้างเผือกเป็นสิ่งใหม่ ขณะที่ความคืบหน้าการซ่อมแซมบูรณะ ประตูช้างเผือกฝั่งซ้ายยังเสี่ยงถล่มซ้ำ ล่าสุด จนท.ดำเนินการรัดดามเผือก พร้อมกั้นพื้นที่ไว้ก่อน

วันที่ 27 ก.ย. 65 ความคืบหน้าเหตุประตูช้างเผือก หนึ่งในห้าประตูเมืองโบราณอายุกว่า 700 ปี พังถล่มลงมา สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวเชียงใหม่ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน หลายคนกังวลใจกลัวว่าจะเป็น “ขึด” หรืออาเพศบ้านอาเพศเมือง ขณะที่สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ระบุสาเหตุจากฝนตกหนักสะสม ทำให้น้ำซึมเข้าแกนด้านในจนดินอ่อนตัวเกิดพังถล่ม

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้ลงสำรวจที่บริเวณประตูช้างเผือกอีกครั้ง หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจในวันที่เกิดกำแพงถล่มลงมา โดยพบว่าการดำเนินการซ่อมแซมนั้น ทั้งสองด้านซ้ายและขวา ถูกปิดกั้นห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หลังจากยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยแนวประตูฝั่งขวาที่พังถล่ม เจ้าหน้าที่ศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้ใช้ท่อนเหล็กและไม้สร้างแนวค้ำยัน หรือที่เรียกว่า “รัดดามเฝือก” เพื่อเสริมความมั่นคงไว้ชั่วคราวก่อนเข้าบูรณะซ่อมแซม

ส่วนประตูฝั่งซ้ายมีการรัดดามเฝือกด้วยเช่นกัน หลังตรวจพบรอยร้าวในแนวดิ่งแบบเดียวกับประตูที่พังถล่มเสียหาย มีโอกาสที่จะพังถล่มเสียหายลงมาได้เช่นกัน หากมีฝนตกต่อเนื่อง เสี่ยงเกิดอันตรายกับผู้ใช้รถที่ผ่านไปบริเวณดังกล่าว ซึ่งในส่วนนี้จะมีการตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ จะมีการสำรวจโครงสร้าง และความมั่นคงของกำแพงเมืองเชียงใหม่ทั้งหมด หากจุดใดที่พบมีปัญหาก็จะต้องเสริมความแข็งแรง โดยทุกจุดจะคงรูปแบบเดิมตามประวัติศาสตร์

ส่วนกรณีที่ ศ.เกียรติคุณ สุรพล ดำริห์กุล อดีตอาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุ๊ก “สุรพล ดำริห์กุล” ระบุว่า ประตูช้างเผือกไม่ใช่โบราณสถาน แต่เป็นสิ่งก่อสร้างใหม่ “ประตูช้างเผือกไม่ใช่โบราณสถาน แต่เป็นสิ่งก่อสร้างใหม่ ที่เป็นทัศนอุจาดบนที่ดินโบราณสถาน (พังเสียได้ก็ดี) “

นอกจากนี้ ยังบอกว่า ประตูเมืองเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกปลอม ก่อสร้างขึ้นใหม่โดยการออกแบบอย่างน่าเกลียดน่าชัง เพราะมันไม่ใช่ลักษณะและแบบแผนของประตูเมืองที่เป็นสากล โดยข้อเท็จจริงประตูเมืองเชียงใหม่ที่เห็นในปัจจุบัน ล้วนเป็นสิ่งสร้างใหม่ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพราะประตูเมืองของเมืองโบราณเชียงใหม่ ถูกไถทำลายไปหมดแล้ว และยังทิ้งท้ายด้วยคำภาวนาขอให้ประตูเมืองอุจาดสร้างใหม่ ที่เหลืออยู่อีก 3 ประตู พังทลายลงให้หมด เสียได้ก็ดีครับ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการ กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ บอกว่า แนวกำแพงเมืองและประตูเมืองเชียงใหม่ทั้งหมด ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน แม้จะมีบางส่วนที่ก่อสร้างขั้นมาใหม่เป็นของใหม่ แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานดั้งเดิม ที่ไม่ได้แยกออกจากกัน โบราณสถานไม่ได้แยกของเก่าดั้งเดิมหรือของใหม่ออกจากกัน แต่มีเรื่องของความเป็นหนึ่งเดียว ความรู่สึกและความผูกพันของคนในพื้นที่นั่นคือชาวเชียงใหม่ที่เป็นเจ้าของสถานที่

ในการบูรณะซ่อมแซม หากจะทำให้กลับไปเป็นรูปแบบเดิมก็สามารถทำได้ แต่รูปลักษณะก็จะเปลี่ยนไป ทั้งประตูที่แคบลงเหมือนประตูท่าแพ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับชาวเชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น