คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำ เชียงใหม่ ประชุมเตรียมพร้อมรับมือฤดูแล้ง

คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมหารือมาตรการรับมือฤดูแล้ง รวมถึงโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ในปี 2566 ที่จะเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายนนี้

วันนี้ (26 ต.ค 65) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือมาตรการรับมือฤดูแล้ง รวมถึงโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ในปี 2566 ณ ห้องประชุม 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้บูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการรองรับฤดูแล้ง ในปี 2565 และปี 2566 เพื่อให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งมีทั้งหมด 10 มาตรการ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านน้ำต้นทุน โดยการเร่งเก็บน้ำหรือสูบน้ำส่วนเกินในช่วงฤดูฝนไว้ใช้ในฤดูแล้ง รวมถึงการเฝ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องมือ เครื่องจักรในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และจัดทำปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อรองรับน้ำในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำ 2.ด้านความต้องการใช้น้ำ จะต้องมีการกำหนดแผนจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในภาคการเกษตร โดยการส่งเสริมปรับเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูก เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำ และ 3.ด้านการบริหารจัดการ ให้สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์สถานการณ์ แผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนกำหนด

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฤดูแล้งที่จะเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำฯ จึงได้จัดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ในปี 2566 โดยแบ่งประเภทแผนงานไว้ทั้งหมด 5 กลุ่มประเภท ประกอบด้วย การปรับปรุงและซ่อมแซมอาคารชลศาสตร์ การสร้างความมั่นคงด้านน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค การเพิ่มน้ำต้นทุนและการเตรียมความพร้อมเครื่องมือเครื่องจักร เพื่อการรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง

ตลอดจนเป็นการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ขาดแคลนน้ำหรือการเสี่ยงภัยแล้ง รวมทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชนสามารถสร้างอาชีพ มีรายได้ เกิดการจ้างงาน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศษฐกิจในภาพรวมของประเทศอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น