ผู้ว่าฯเชียงใหม่ย้ำ ปล่อยโคมลอยไม่ได้รับอนุญาตเอาผิด แต่ไม่ต้องการให้เสียบรรยากาศท่องเที่ยว มีเพียง อ.แม่วาว อำเภอเดียวที่ขออนุญาตปล่อยโคมลอย ส่วนทางท่าอากาศยานเชียงใหม่รณรค์ปล่อยโคมลอยปลอดภัย ย้ำการปล่อยโคมลอย/โคมควัน ในช่วงเทศกาลยี่เปีง ขอให้ยึดปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ และ พ.ร.บ.การเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) อย่างเคร่งครัด โดยห้ามปล่อยเด็ดขาดในพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ ระดับ 1
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พ.ย.2565 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิ์ถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเปิดการประชุมแถลงข่าว และกล่าวในวาระแถลงข่าวเรื่อง มาตราการป้องกันผลกระทบจากโคมลอยในประเพณียี่เป็ง(ลอยกระทง) วันที่ 7-9 พ.ย.นี้ การปล่อยโคมลอยตนเป็นห่วงที่จะเกิดอันตรายไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน การปล่อยโคมถึงจะมีประชาชนแอบปล่อย โดยทางเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้เตือนแล้วว่าไม่ให้ปล่อยในพื้นที่ที่มีการห้ามแล้วยังกระทำความผิดอีก ซึ่งจะกระทบส่วนรวม หากเกิดความเสียหายกับบ้านเรือนประชาชนเช่นเกิดไฟไหม้บ้าน จะรับผิดชอบได้หรือไม่ และหากเกิดปัญหาขึ้นมาเชื่อว่าจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจจับได้ไม่ยาก และจะดำเนินคดีตามกฏหมาย ถึงแม้ว่าไม่ต้องการให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยวก็ตาม
“เท่าที่ผ่านมาปกครองอาจจะไม่ได้แจ้งให้ประชาชนทราบถึงมาตราการห้ามปล่อยโคมลอย แต่วันนี้ขอแจ้งไว้เลยว่า มีเพียง อ.แม่วาง อำเภอเดียวที่ขออนุญาตมา และตนได้อนุญาตไปแล้วเพียงอำเภอเดียว ส่วนอำเภออื่นๆการขอปล่อยโคมลอยก็ต้องให้ทางนายอำเภอในพื้นที่พิจารณาก่อนจัดงานภายใน 30 วัน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าว

ทางด้านนายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวทางในการปฏิบัติเพื่อป้องกันผลกระทบจากการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวม) ในเทศกาลลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็ง ว่า ขอให้ยืดปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) ซึ่งปรับปรุงใหม่เมื่อปี พ.ศ.2562 โดยในมาตรา 33 ได้เพิ่มความตามมาตรา 59/1 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 และประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ซึ่งห้ามจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 ซึ่งพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 ดังกล่าว คือบริเวณแนวขึ้น-ลง สนามบิน ที่อยู่ห่างจากทางขึ้น-ลงของเครื่องบินข้างละ 4.6 กิโลเมตร เป็นระยะทางยาว 18.5 กิโลเมตร จากหัวทางวิ่งทั้ง 2 ด้าน ครอบคลุมพื้นที่ในตำบลต่างๆ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 16 ตำบล อำเภอสารถี 5 ตำบล อำเภอสันทราย 1 ตำบล อำเภอหางดง 11 ตำบล อำเภอแม่ริม 5 ตำบล อำเภอสันป่าตอง 1 ตำบล ส่วนพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศขอให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 โดยมีสาระสำคัญเช่น การกำหนดพื้นที่ห้ามปล่อยโคม กำหนดชนิด ขนาด และจำนวน และกำหนดระยะเวลา ในการจุดหรือปล่อย คือ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็ง ให้ปล่อยได้ในคืนวันลอยกระทงเล็กและวันลอยกระทงใหญ่ ระหว่างเวลา 19.00-01.00 น. ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 8 และ 9 พฤศจิกายน 2565 โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 30 วัน หลังจากได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ ต้องแจ้งท่าอากาศยานเชียงใหม่ หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 14 วัน เพื่อจะได้ออกประกาศเตือนนักบิน (NOTAM) ต่อไป

สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหมได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่ในเขความปลอดภัยในการเดินอากาศประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนและ Social Media โดยสามารถสอบถาม และตรวจสอบพื้นที่ปล่อยโคมลอย
ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ที่ส่วนมาตรฐานท่าอากาศยานและอาชีวอนามัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-922000 ต่อ 23000 หรือ 23431 ในวันเวลาราชการ ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจสอบของสนามบินทั้งภายในเขตการบินและนอกเขตการบิน โดยเฉพาะในเขตการบินหรือ Airside จะมีการออกตรวจทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตก ในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่กล่าว






ร่วมแสดงความคิดเห็น