เปิดการประชุมวิชาการ ด้านโบราณคดี ครั้งที่ 22

รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดการประชุมวิชาการ ด้านโบราณคดี ครั้งที่ 22 คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับเกียรติจากสมาคมก่อนประวัติศาสตร์ภาคพื้น อินโด-แปซิฟิค จัดการประชุมวิชาการ ด้านโบราณคดี ครั้งที่ 22 ครั้งนี้มีนักวิชาการ และผู้ร่วมประชุมจากทั่วโลก มากกว่า 800 คน จัดที่เชียงใหม่ ถือว่าเป็นการจัดโอลิมปิกโบราณคดี

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่ห้องประชุมชั้น 4 โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงใหม่ ได้จัดการประชุมวิชาการด้านโบราณดี The 22nd Congress of the Indo-Pacific Prehistory Association ตามที่คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับเกียรติจากสมาคมก่อนประวัติศาสตร์ภาคพื้น อินโด-แปซิฟิค ให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติของสมาคม Congress of Indo-Pacific Prehistory Association ครั้งที่ 22 ร่วมกับกรมศิลปากร ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ภายใต้องค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO SPAFA) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ICOMOSCHMA และสมาคมนักศึกษาเก่าคณะโบราณคดี ระหว่างวันที่ 6-12 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมเลอเมอริเดียนจังหวัดเชียงใหม่ มีนักชาการและผู้สนใจจากทั่วโลกมาร่วมประชุมจำนวนมากกว่า 800 คน

ในงานมีการแสดงต้อนรับ และกล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานโดย ศาสตราจารย์ ดร.รัศมี ชูทรงเดช ประธานสมาคมก่อนประวัติศาสตร์ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิค

จากนั้นประธานกล่าวเปิดงาน โดย ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

โดยมีผู้ร่วมประชุม ประกอบด้วย ศาสตราจารย์ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดำรงพล อินทร์จันทร์ คณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ดร. นายแพทย์ โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), ศาสตราจารย์ ดร.ฟิลิป ไปเปอร์ เลขานุการสมาคมก่อนประวัติศาสตร์ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิค

ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวให้สัมภาษณ์ ว่า “เหมือนการจัดโอลิมปิกโบราณคดี ซึ่งประเทศไทยเราจัดเป็นครั้งที่ 2 ไทยเราได้รับความไว้วางใจ ชื่นชม ยอมรับวิชาโบราณคดี ถือว่าสำคัญ ไทยเราค้นพบอะไรใหม่ๆได้ตลอดเวลา ศึกษาวิชาการอริยธรรมมานานกว่า 2500 ปีอย่างต่ำ ก่อนนั้นรู้เพียงว่าประวัติศาสตร์ไทยในยุคสุโขทัยที่อายุเพียง 700 กว่าปีเท่านั้น

“วันนี้วิชาการทรงคุณค่า มีผลทางปฏิบัติ การศึกษาเรื่องอดีตมีผลต่อปัจจุบันและอนาคต ทำให้ประเทศไทยยกระดับฐานะตัวเองขึ้นมาเป็นจุดหนึ่งของอริยธรรมสำคัญของโลก ของเอเชีย เคียงคู่กับอริยธรรมจีน อินเดีย อารยธรรมเปอร์เซีย และอริยธรรมโรม จากที่ไทยเรามี 2 วัฒนธรรม วัฒนธรรมมนุษยศาสตร์ กับวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์มาพบกันแล้ว วิทยาศาสตร์ได้ช่วยโบราณคดี และโบราณคดีไม่รังเกียจวิทยาศาสตร์ ที่ได้ทำ “ธัชชา” และ “ธัชวิทย์” มาแล้วนั้น เพราะฉะนั้นประเทศไทยก้าวหน้าไปมากแล้ว จากที่เราเป็นเจ้าภาพเมื่อ 28 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราก็มั่นคงทางโบราณคดี และวันนี้เราก็ได้ก้าวหน้าไปมากอีกชาติหนึ่งที่นำหน้าในทวีปเอเซีย ถือว่าเป็นข่สวดีมาก และมาจากทั่วประเทศจำนวนมากถึง 800 คนมาร่วมงานวันนี้ และเชียงใหม่ก็ช่วยได้มากและเปิดประชุมที่เชียงใหม่ครั้งนี้ตรงกับฤดูท่องเที่ยวช่วงเทศกาลลอยกระทงพอดี”

ร่วมแสดงความคิดเห็น