ทีเส็บหนุนงานเทศกาล BAM Fest เตรียมปักหมุดเป็นงานเทศกาลฯ

ทีเส็บสนับสนุนโครงการเทศกาลสถาปัตยกรรมไม้ไผ่และนวัตกรรมวัสดุสร้างสรรค์นานาชาติ (International Bamboo Architect and Material Innovation Festival – BAM Fest) ตั้งเป้าเป็นเทศกาล Flagship ใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเมือง ต่อยอดศักยภาพไมซ์ซิตี้และสถานะเมืองเทศกาลโลก

ดร.จุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) – ทีเส็บ หรือ สสปน. ได้ให้การสนับสนุนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการดำเนินโครงการเทศกาลสถาปัตยกรรมไม้ไผ่และวัสดุสร้างสรรค์นานาชาติ (International Bamboo Architect and Material Innovation Festival – BAM Fest) ระยะ 5 ปี เริ่มตั้งแต่การศึกษาแนวทางร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยการจัดกิจกรรมประชุมเครือข่ายเชื่อมโยงต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อวางแผนเสนอแนวทางในการสร้างงานเทศกาลที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ กระจายรายได้แก่ทุกภาคส่วน มาตั้งแต่ปี 2564 โดยตั้งเป้าหมายปลายทางอยู่ที่การสร้างให้ BAM Fest เป็นงานเทศกาลของท้องถิ่นที่พัฒนาสู่ระดับชาติและระดับนานาชาติ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล ให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในอนาคต

การดำเนินงานของ BAM Fest ในปี 2565 นี้ จะเป็นการแสดงความร่วมมือของการขับเคลื่อนการเชื่อมโยงเครือข่ายต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำของห่วงโซ่คุณค่าของงานสถาปัตยกรรมไม้ไผ่และวัสดุสร้างสรรค์ โดยการติดตั้งผลงานสถาปัตยกรรมไม้ไผ่ที่เล่าเรื่องราวของ “ตรอก” ณ บริเวณแลนด์มารค์ของเมือง ได้แก่ ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ. เมือง จ. เชียงใหม่ ในห้วงเวลาเดียวกับงานเทศกาลออกแบบเชียงใหม่ 2565 ที่จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระหว่างวันที่ 3-11 ธันวาคม 2565 ซึ่งผลงาน “ตรอก” เป็นงานออกแบบพื้นที่แสดงนิทรรศการที่เล่าเรื่องราวงานสานไม้ไผ่ของสล่าพื้นถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละพื้นที่ รวมถึงมีความหมายแตกต่างกันในแง่ของการใช้งานและสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมต่างๆ ที่ส่งผ่านออกมาในงานฝีมือสานไม้ไผ่ของแต่ละบุคคล โดยงานนิทรรศการดังกล่าวจะเป็นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการริเริ่มงานเทศกาลใหม่ BAM Fest นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลปี๋ใหม่เมืองในเดือนเมษายน 2565 จะมีการจัดแสดงนิทรรศการและงานสถาปัตยกรรมไม้ไผ่ที่เล่าเรื่องราวของของดอยสุเทพและสายน้ำแม่ปิง ณ ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ภายใต้งานเทศกาล BAM Fest เช่นเดียวกัน

ด้านศาสตราจารย์ ดร. ระวิวรรณ โอฬารรัตน์มณี คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า โครงการเทศกาลสถาปัตยกรรมไม้ไผ่และนวัตกรรมวัสดุสร้างสรรค์นานาชาติ หรือ BAM Fest เป็นการริเริ่มร่วมกันระหว่างคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการสร้างงาน flagship ของท้องถิ่นที่สามารถพัฒนายกระดับไปสู่งานไมซ์ระดับประเทศและระดับนานาชาติภายในระยะเวลา 3-5 ปี ซึ่งไม้ไผ่เป็นวัสดุท้องถิ่นที่พัฒนาด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านเป็นงานสร้างสรรค์มากมาย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ ที่มุ่งพัฒนาภูมิปัญญาล้านนาสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและวัสดุนวัตกรรมพื้นถิ่น รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรมไม้ไผ่ในภาคเหนือ อีกทั้งจังหวัดเชียงใหม่ยังเป็น World Craft City ซึ่งเป็นจุดแข็งในการเป็นแหล่งบ่มเพาะงานหัตถกรรมและงานภูมิปัญญาพื้นถิ่น ยิ่งไปกว่านั้น ทางทีเส็บยังได้ผลักดันจังหวัดเชียงใหม่ไปสู่ความเป็นเมืองเทศกาลโลก (World Festival & Event City) อันจะยิ่งส่งผลดีต่อการขยายความสามารถในการนำวัสดุท้องถิ่นสู่การพัฒนานวัตกรรมการออกแบบและสถาปัตยกรรมไม้ไผ่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เกิดการรวมเครือข่ายในระดับนานาชาติโดยมีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านสถาปัตยกรรมไม้ไผ่และวัสดุสร้างสรรค์ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ในหลากหลายระดับ ทั้งงานประชุมวิชาการและการจัดงานนิทรรศการเผยแพร่เพิ่มพูนองค์ความรู้  การออกแบบบนพื้นที่สาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ให้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั้งการสร้างงานเทศกาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกระดับ สร้างรายได้ให้เมืองในระยะยาวต่อไป”

ดร. จุฑา กล่าวเสริมถึงแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนของทีเส็บว่า จะมุ่งเน้นการพัฒนางานร่วมกันกับหน่วยงานในท้องถิ่น โดยให้การสนับสนุนต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ปี ทั้งในแง่ของงบประมาณและการทำงานร่วมกันในด้านอื่น ๆ ซึ่งทีเส็บมองว่าระยะเวลาดังกล่าวมีความเหมาะสมเพียงพอที่จะทำให้งานเทศกาลท้องถิ่นสามารถยกระดับเป็นงาน Flagship และพัฒนาสู่งานระดับประเทศและระดับนานาชาติได้ โดยโมเดลการสนับสนุนดังกล่าว ได้แก่ งานเชียงใหม่บลูมส์ที่จัดขึ้นตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ต่อยอดขยายผลจากงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับของจังหวัดเชียงใหม่ โดยทีเส็บได้ร่วมกับสมาคมวิศิษฏ์ล้านนาพัฒนางานเชียงใหม่บลูมส์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปีแล้ว จนปัจจุบันเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับประเทศ กลายเป็นหมุดหมายที่ช่วยดึงดูดนักเดินทางไมซ์ให้เข้ามาจัดกิจกรรมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และช่วยขยายระยะพำนักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

“ทีเส็บหวังว่า การร่วมกันพัฒนางานเทศกาล BAM Fest กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครั้งนี้ จะเป็นการปักหมุดเทศกาลใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเมือง ส่งเสริมศักยภาพในฐานะเมืองไมซ์ซิตี้และเมืองเทศกาลโลกของจังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งยังสนับสนุนการท่องเที่ยวในระยะยาวอีกด้วย” ดร. จุฑา กล่าวสรุป

ร่วมแสดงความคิดเห็น