ช้างน้อยแสนซนหมอบกราบรับการเปลี่ยนชื่อแก้เคล็ดจากอดีตควาญช้างรัชกาลที่ 9 หลังเป็นตัวตึงวิ่งชนแหลกไม่สนใจใคร 5 ควาญช้างอาวุโสรุ่นสุดท้ายของไทยร่วมพิธีไหว้ศาลปะกำสืบสานวิถีคนเลี้ยงช้าง
ปางช้างแม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายแก้ว บุตรชาติ อายุ 89 ปี อดีตหัวหน้าควาญช้างในรัชกาลที่ 9 ผู้เลี้ยงช้าง “พระเศวตอดุลยเดชพาหน” พระยาช้างเผือกคู่บารมีประจำรัชกาลที่ 9 ได้ทำการเปลี่ยนชื่อให้ “พลายตะวัน” ช้างน้อยแสนซนของปางช้างแม่แตงให้ชื่อใหม่เป็น “พลายภูพิงค์” เพื่อความเป็นมงคล โดยพลายภูพิงค์ได้หมอบลงต่อหน้านายแก้วเพื่อรับการคล้องสายสิญจน์เรียกขวัญอย่างว่านอนสอนง่าย ท่ามกลางผู้เข้าร่วมพิธีและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชื่นชมความน่ารักแสนรู้ของช้างน้อยเชือกนี้
นางวาสนา ทองสุข ผู้บริหารปางช้างแม่แตง เล่าว่า พลายภูพิงค์เกิดเมื่อคืนวันที่ 14 เมษา ยน 2564 ที่ปางช้างแม่แตง โดยในคืนที่เกิดนั้นทีมควาญหลับสนิท ตื่นเช้ามาอีกทีก็พบว่าแม่ช้างท้องแฟบไปแล้วแต่ก็หาตัวลูกช้างไม่เจอ หลังจากนั้นก็พบช้างน้อยเดินออกจากป่ามาพร้อมกับแสงแดดยามเช้า จึงได้ตั้งชื่อให้ว่า พลายตะวัน แต่หลังจากนั้นพลายตะวันก็เป็นช้างซุกซนไม่เชื่อฟังจนควาญช้างเรียกให้เป็นนักวิ่งร้อยเมตร หากหลุดจากโซ่ก็จะวิ่งซนไปทั่วและยังเคยวิ่งชนผู้ช่วยสัตวแพทย์จนสลบมาแล้ว
ต่อมาคุณตาแก้วอดีตหัวหน้าควาญช้างในรัชกาลที่ 9 ทราบเรื่องจึงท้วงติง บอกว่าชื่อนี้อาจทำให้ช้างดื้อเพราะความหมายของตะวันคือความร้อนแรง โดยบอกว่าชื่อมีความสำคัญกับช้างมาก หากชื่อไม่ถูกต้องก็อาจจะทำให้ช้างดุร้ายควบคุมยาก จึงเมตตาเปลี่ยนชื่อให้เป็น “ภูพิงค์” เพื่อให้สงบนิ่ง อ่อนโยนและว่านอนสอนง่าย และเป็นที่น่าอัศจรรย์เพราะหลังเปลี่ยนชื่อใหม่ก็พบว่าพลายภูพิงค์สงบนิ่งลงและว่านอนสอนง่ายจนทำให้คนในปางช้างแปลกใจ แถมยังชอบทักทายสวัสดีกับผู้คนอีกด้วย โดยหลังจากนี้พลายภูพิงค์จะไปเข้าโรงเรียนฝึกช้างและควาญของสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมย์ ที่ จ.ลำปาง เมื่ออายุครบสามขวบภายในไม่กี่เดือนนี้
เวลา 9.09 น. วันเดียวกันนี้ที่ศาลปะกำปางช้างแม่แตง ครูบาปะกำ 5 คน ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งล้วนแต่เป็นครูบาช้างที่เคยใช้เชือกปะกำไปคล้องช้างป่ามาและเป็นเหล่าควาญช้างอาวุโสที่ถือได้ว่าเป็นครูบาปะกำรุ่นสุดท้ายของประเทศไทย ได้ร่วมทำพิธีไหว้ศาลปะกำเพื่อความเป็นสิริมงคลกับช้างและคนเลี้ยงช้าง
“ปะกำ” คือ เชือกที่ทำจากหนังควายที่มีความทนทานและเหนียวเป็นพิเศษ เพื่อใช้ในการคล้องจับช้างป่า ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิสำคัญของคนเลี้ยงช้างซึ่งหาได้ยากแล้วในทุกวันนี้ เพราะการคล้องหรือจับช้างป่ามาเพื่อใช้งานได้ถูกยกเลิกไปนานแล้ว ทำให้พิธีไหว้ครูปะกำซึ่งจะมีขึ้นก่อนการคล้องช้างป่าเริ่มเลือนหายไปจากสังคมไทย เหลืออยู่แค่ในหมู่คนเลี้ยงช้างเท่านั้นที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการสืบสานตำนานการเลี้ยงช้างไทยตามประเพณีโบราณและเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษของคนเลี้ยงช้างไทย
โดยที่ผ่านมาปางช้างแม่แตงจัดให้มีพิธีไว้ครูปะกำเป็นประจำทุกปี แต่ได้หยุดไปในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด 19 ปีนี้ได้รื้อฟื้นจัดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเป็นการฟื้นฟูรักษาประเพณีช้างไทยที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปีและเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทย
ร่วมแสดงความคิดเห็น