เชียงใหม่ ถอดบทเรียน “ไฟป่า-หมอกควัน-PM2.5” ปี 2568 ผนึกกำลังทุกภาคส่วน สู่อนาคตฟ้าใสไร้ฝุ่น

วันนี้ (30 มิ.ย. 68) ที่ โรงแรมคุ้มภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยในช่วงเช้า นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการถอดบทเรียนฯ จากนั้นในช่วงบ่าย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมารับฟังสรุปผลการถอดบทเรียนฯ จากการร่วมระดมความคิดเห็นจากทีมเชียงใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วยภาคราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 200 คน ที่มาช่วยกันวิเคราะห์ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และวางแนวทางขับเคลื่อนมาตรการอากาศสะอาดให้เข้มข้นยิ่งขึ้นในอนาคต

สำหรับการดำเนินงานของจังหวัดเชียงใหม่อิงตามยุทธศาสตร์ 5 กลุ่มพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่เกษตร พื้นที่ชุมชนและสุขภาพ และการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม มีการจัดเวทีเสวนาโดยวิทยากรจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียน และนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการดำเนินงานในระยะยาว

โดยข้อมูลจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ในปี 2568 นี้ จังหวัดเชียงใหม่สามารถลดจุดความร้อนจากการเผาเหลือเพียง 4,709 จุด ลดลงถึง 60% จากค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา พื้นที่เผาไหม้ลดลงกว่า 704,000 ไร่ หรือ 27% ขณะที่จำนวนวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานลดลงเหลือ 60 วัน ลดลง 34% และจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ลดลงถึง 54% สะท้อนผลสำเร็จของมาตรการเชิงรุกแบบบูรณาการ

ทั้งนี้ หนึ่งในมาตรการที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง และทำให้การลดการเผาในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ “นโยบายห้ามด้วยการให้” ซึ่งเริ่มจากการขอความร่วมมือในการงดเผาพื้นที่เกษตร แล้วให้ส่วนราชการเข้าไปช่วยเหลือโดยกาาสนับสนุนรถไถ น้ำมัน และการขนซากชีวมวลออกจากแปลงเกษตร เพื่อลดการเผาในพื้นที่เกษตรกว่า 250,000 ไร่ พร้อมสร้างอาชีพทางเลือก เช่น ไกด์นำเที่ยว เฝ้าป่า และลาดตระเวนแนวกันไฟ แทนการหาของป่า

ในด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่าในเขตพื้นที่ป่า จังหวัดเชียงใหม่ได้บูรณาการเจ้าหน้าที่กว่า 16,000 คน จากหลายหน่วย เช่น สิงห์ไฟ เสือไฟ เหยี่ยวไฟ และเครือข่ายจิตอาสา ช่วยกันตั้งจุดสกัดพร้อมทั้งลงพื้นที่ลาดตระเวนกว่า 800 จุด มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยตรวจสอบควันดำจากโรงงาน รถยนต์ โครงการก่อสร้าง และสนับสนุนการบินดับไฟในพื้นที่ห่างไกล ส่วนการดูแลกลุ่มเปราะบาง จังหวัดได้จัดตั้งห้องลดฝุ่นกว่า 27,000 ห้อง แจกหน้ากาก 300,000 ชิ้น จัดทำมุ้งกันฝุ่น ตรวจสุขภาพเจ้าหน้าที่ดับไฟ และจัดทำประกันภัยครอบคลุมอาสาสมัครทุกคน

นอกจากนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกลางกว่า 105 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเป้าหมายหลัก 4 ด้านในปี 2568 ได้แก่ ลดจุดความร้อน ลดพื้นที่เผาไหม้ ลดจำนวนวันที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน และลดจำนวนผู้ป่วยทางเดินหายใจ โดยขับเคลื่อนผ่านมาตรการ “อากาศสะอาด” ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ การลดที่ต้นทาง การป้องกันผลกระทบสุขภาพ และการบริหารจัดการร่วมกันใน 3 ระยะ คือ เตรียมการ เผชิญเหตุ และฟื้นฟู

ในการสัมมนาครั้งนี้ ทุกภาคส่วนได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองอย่างรอบด้าน พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนมาตรการแบบบูรณาการอย่างเข้มข้น เพื่อยกระดับคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือของ “ทีมเชียงใหม่” เพื่อฟ้าใส ไร้ฝุ่น และสุขภาพที่ดีของประชาชนทุกคน

ร่วมแสดงความคิดเห็น