กรมชลประทาน เร่งสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่วาง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ หวังแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำและรับน้ำหลาก ในพื้นที่ 3 อำเภอ คาดเริ่มดำเนินการได้ในปี 2574 และใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี
วันที่ 5 ส.ค. 68 ที่ ห้องประชุม 5 ชั้น 5 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายอดิศร อุลัย รักษาการหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 1 และ นายอานนท์ มังกโรทัย หัวหน้าฝ่ายก่อสร้าง สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 2 ได้ร่วมกันแถลงข่าวในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 20/2568 ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่วาง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแผนโครงการที่กรมชลประทานได้วางแผนดำเนินงานไว้ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงแล้ง และปัญหาน้ำหลากในช่วงหน้าฝน
โดย นายอดิศร อุลัย กล่าวว่า โครงการดังกล่าว สืบเนื่องมาจากปัญหาขาดแคลนน้ำของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่วาง อำเภอสันป่าตอง และอำเภอดอยหล่อ รวม 7 ตำบล ซึ่งปกติจะอาศัยการใช้น้ำจากลำน้ำแม่วาง และลำน้ำสาขาในการทำการเกษตร และเพื่อการอุปโภค-บริโภค โดยในช่วงหน้าแล้งน้ำจะไม่เพียงพอ แต่เมื่อถึงช่วงหน้าฝนกลับประสบปัญหาน้ำหลาก ไม่สามารถควบคุมน้ำได้ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น กรมชลประทานจึงได้มีแนวคิดก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่วางสำหรับกักเก็บน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการสำรวจความเป็นไปได้ในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ทั้งในส่วนของสภาพธรณีวิทยา ฐานรากที่ตั้งตัวเขื่อน ปัจจุบันอยู่ในระหว่างเสนอร่างพิจารณาด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อคณะกรรมการฯ ล่าสุด ในปี 2568 เริ่มขั้นตอนสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่วาง ควบคู่ไปกับกระบวนการนี้ด้วย
.
สำหรับอ่างเก็บน้ำแม่วาง จะมีหัวเขื่อนตั้งอยู่ที่บริเวณหมู่ 1 บ้านใหม่ปางเติม ต.บ้านกาด อ.แม่วาง ได้มีการออกแบบโครงการก่อสร้างเป็นเขื่อนดินแบบ Zone Type สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ยาว 700 เมตร และสูง 80 เมตร มีความจุเก็บกักน้ำรวม 25.415 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยคาดว่าจะได้รับงบประมาณในการเริ่มดำเนินงานมาในปี 2574 และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการถึง 6 ปี ทั้งนี้ หากโครงการฯ แล้วเสร็จ จะเชื่อมต่อและส่งน้ำให้กับฝายที่เป็นลำน้ำสาขาที่อยู่ในลำน้ำแม่วางถึง 11 แห่ง ซึ่งจะสามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ในช่วงฤดูฝนได้ประมาณ 38,030 ไร่ และฤดูแล้งประมาณ 20,488 ไร่ รวมพื้นที่รับประโยชน์ทั้งสิ้น 48,780 ไร่ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ครอบคลุมทั้งจากภัยแล้งและอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำ และพื้นที่ท้ายน้ำแม่วางได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังส่งผลประโยชน์สูงสุดต่อการกักเก็บน้ำต้นทุน การอุปโภค-บริโภค การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และอาชีพที่เกี่ยวกับกิจกรรมทางน้ำ
นายอดิศร อุลัย กล่าวอีกว่า โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่วาง ถือเป็นโครงการใหญ่ของกรมชลประทาน ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการก่อสร้าง จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะแบบแพลนของอ่างเก็บน้ำ ที่กำลังเร่งออกแบบอยู่ในขณะนี้ ที่จะต้องมีความมั่นคง แข็งแรง สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะต้องเร่งออกแบบแล้วเสร็จภายในปี 2569 และยังต้องเคลียร์ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน กับเขตอุทยานแห่งชาติ ที่ต้องมีการขออนุญาตการใช้พื้นที่จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย รวมถึงการจ่ายค่าชดเชยด้านที่ดินและทรัพย์สินให้กับชาวบ้าน ที่อาจได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง
ร่วมแสดงความคิดเห็น