เวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 8 ต.ค. 65 มวลน้ำปริมาณมากได้ไหลเข้าท่วมตลาดสายลมจอย ย่านการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ริมฝั่งแม่น้ำสาย ใกล้กับด่านพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก สะพานข้ามน้ำสายแห่งที่ 1 โดยความสูงของน้ำที่ท่วมมากกว่า 50 เซ็นติเมตร ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้วในปีนี้ ที่ตลาดสายลมจอยถูกน้ำเอ่อเข้าท่วม แต่ครั้งนี้ไม่มีของเสียหายมากนัก เพราะว่าเก็บทัน โดยน้ำเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 7 ต.ค.เป็นต้นมา
หลังจากเกิดเหตุ นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย นายชัยยาต์ ศรีสมุทร์ นากเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่สาย ได้นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหา เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ โดยระดับน้ำได้ล้นพนังกั้นน้ำที่เทศบาลตำบลแม่สาย ทำไว้บริเวณใต้สะพานชายแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน ซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่น บริเวณใกล้กับสะพานพรมแดน โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สาย ได้ทำการตัดกระแสไฟบริเวณตลาดสายลมจอยและจุดอื่นๆ ที่ถูกน้ำท่วม เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน

โดยก่อนหน้าที่น้ำท่วมสูง ฝ่ายประชาสัมพันธ์เทศบาลตำบลแม่สาย ได้นำรถติดเครื่องกระจายเสียงออกประกาศเตือนประชาชน ให้เก็บสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงและให้นำรถยนต์ ยานพาหนะที่ไม่จำเป็น และก็ขอให้เจ้าของขับหนีน้ำไปจอดไว้ในที่ปลอดภัย โดยในครั้งนี้ประชาชนตื่นตัวมารับกับสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้ไม่เกิดความเสียหายมากนัก แม้ว่าหลายคนอาจจะบอกว่าน้ำที่ท่วมครั้งนี้มาเร็วและระดับน้ำสูงเร็วมากกว่าทุกครั้ง
โดยในช่วงเช้านี้ทางพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านในพื้นที่ตลาดสายลมจอย และพื้นที่ใกล้เคียงต่างพากันออกมาทำความสะอาดบ้านเรือนและร้านค้าที่ถูกโคลน ซึ่งไหลมากับน้ำตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งบนถนน และร้านค้า ต่างๆ
ทางด้านพื้นที่ บ้านสันกอง ตำบลแม่ไร่ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ได้เกิดน้ำป่าจากห้วยแม่ไร่ไหลบนดอยตุง เข้าท่วมในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. คืนวันที่ 7 ต.ค. 65 โดยน้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน ร้านค้า และถนนพหลโยธิน ทางขึ้นโครงการพัฒนาดอยตุง ความแรงของกระแสน้ำทำให้กำแพงวัดสันกอง ล้ม และพังเสียหาย ซึ่งชาวบ้านบอกว่าน้ำป่าไหลมาเร็วมาก ชาวบ้านเก็บสิ่งของไม่ทัน ทำให้เครื่องครัว ตู้เย็นหายไปกับน้ำ โดยในที่พื้นที่ต้นน้ำห้วยไร่ ที่บ้านสวนป่า ตำบลแม่ฟ้าหลวง มีเสาไฟฟ้าล้มปิดทับเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้าน 20 หลังเรือน และน้ำป่ายังไหลหลากท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต พบว่ามีรถยนต์ไหลไปกับน้ำ 1 คัน และจักรยานยนต์สูญหายไปกับน้ำ 3 คัน















ร่วมแสดงความคิดเห็น