(มีคลิป) เดือดร้อน! ถูกลวงเป็นสมาชิกสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์

YouTube video

ชาวบ้าน ต.แม่ลอย อ.เทิง เดือดร้อนหนัก! ถูกชักชวนเป็นสมาชิกสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์ แต่ถูกเบี้ยวไม่จ่ายเงิน เสียหายกว่า 15 ล้านบาท

วันที่ 6 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณี ชาวบ้านที่ ต.แม่ลอย อ.เทิง จ.เชียงราย ได้รับความเดือดร้อน หลังจากมีผู้ชักชวนเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์แห่งหนึ่ง โดยจะมีการเรียกเก็บค่าแรกเข้า 3,000 บาท และจ่ายรายเดือนๆละ 530 บาท ซึ่งกรณีเสียชีวิต ญาติจะได้รับเงินจำนวน 85,000 บาท ซึ่งช่วงแรกจะได้รับเงินตามสัญญา แต่พอนานๆไป ปรากฏว่าไม่ได้เงิน บางคนติดค้างมานานเกือบปี พอไปทวงถามคนชักชวนก็ผลัดผ่อนมาเรื่อย ล่าสุดสมาคมฯได้งดการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านทั้งคนที่รอเงินฌาปณกิจสงเคราะห์และคนที่เป็นสมาชิก จึงได้นัดรวมตัวกันที่บ้านเกี๋ยงดอย ม.13 ต.แม่ลอย อ.เทิง เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม อยากได้เงินที่จ่ายรายเดือนให้กับทางสมาคมฯคืน

ดร.ชูชาติ วชิรานนท์ ผู้ประสานงาน กล่าวว่า ตนได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านในพื้นที่ ต.แม่ลอย อ.เทิง จ.เชียงราย กรณีเมื่อประมาณปี 2561 ชาวบ้านถูกชักชวนเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคม A (ชื่อสมมุติ) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย มีที่อยู่ตามที่ระบุในใบหลักฐานการเป็นสมาชิกคือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สมาคมดังกล่าวมีการเก็บค่าแรกเข้า 3,000 บาท และต้องจ่ายรายเดือนๆละ 530 บาท ซึ่งในช่วงแรกสมาชิกที่เสียชีวิต ญาติที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้รับเงิน 85,000 บาท ตามที่ระบุในสัญญา แต่เมื่อเปิดได้ประมาณ 1 ปี สมาคมดังกล่าวก็ได้ปิดตัวลง และผู้ชักชวนคือนางเกี๋ยง ผิวแดง ปัจจุบันอายุ 64 ปี ได้มาชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิกของสมาคม B (ชื่อสมมุติ) โดยบอกว่าก่อตั้งมาแทนสมาคมเดิมที่ปิดตัวไป มีที่อยู่ระบุในใบสมาชิกคือ เลขที่ 1 ม.13 ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย มีรายละเอียดตามที่ระบุในสมาคมทุกอย่าง แต่สมาขิกจะได้รับเงินแค่คนที่เสียชีวิตในช่วงแรกๆ พอนานๆไปก็ไม่มีการจ่ายเงินให้ผู้รับผลประโยชน์ วันนี้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนของ ต.แม่ลอย มารวมตัวกันประมาณ 35-45 คน บางคนก็ไม่ได้มาในวันนี้ รวมๆแล้วใน ต.แม่ลอย จะมียอดความเสียหายประมาณเกือบ 15 ล้านบาท ยังไม่รวมในพื้นที่อื่นๆทั่ว อ.เทิง และ อ.เชียงคำ จ.พะเยา คาดว่ารวมๆแล้วน่าจะมียอดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท เคยมีการไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เทิง เป็นบางส่วน แต่เจ้าหน้าที่รับทำแค่ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ซึ่งหลังจากนี้ชาวบ้านจะร่วมพูดคุยกัน เพื่อนัดรวมตัวกันไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ฃักชวนอีกครั้ง

นางสุพิน (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี กล่าวว่า กรณีของตนสมัครสมาชิกมาตั้งแต่ปี 2561 โดยสมัครเป็นสมาชิกทั้งสมาคมฌาปณกิจฯและสมัครโครงการ “ปันสุข” ซึ่งจะจ่ายเป็นรายปีๆละ 5,000 บาท จะได้เงินฌาปณกิจจำนวน 100,000 บาท และญาติได้เสียชีวิตไปเมื่อประมาณเดือน ม.ค. 65 แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับเงินฌาปณกิจ

ด้านนางอำภา (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี เผยว่า สมัครสมาชิกมาตั้งแต่ปี 2561 แต่ไม่ได้เงินตามสัญญา ส่วนนางนงนุช (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี เผยว่า ในส่วนของตนญาติยังไม่เสียชีวิต แต่ได้ทราบข่าวว่ามีหลายคนที่ไม่ได้รับเงินตามที่ระบุ จึงอยากจะเรียกร้องขอเงินที่จ่ายไปแล้วคืนมา โดยผู้เสียหายทั้งคู่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ที่มาชักชวนเข้าร่วมเป็นสมาชิกเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน อยู่ตำบลเดียวกัน และมีคนสมัครในช่วงแรกๆได้รับเงินจริงตามที่ระบุ จึงไว้เนื้อเชื่อใจ พากันมาสมัครเป็นสมาชิกมากขึ้น

ผู้เสียหายที่มารวมตัวกัน ได้พากันเดินไปที่บ้านของผู้ชักชวน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดนัดหมายเป็นระยะทางประมาณ 300 ม. แต่เมื่อไปถึงบ้านผู้ชักชวน ปรากฏว่าประตูหน้าบ้านเปิดไว้ แต่เมื่อเรียกหากลับไม่มีคนออกมาจากบ้าน ทางกลุ่มผู้เสียหายจึงกลับไปรวมตัวเพื่อพูดคุยนัดหมายวันเวลาที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น