สาวเชียงรายแชร์ประสบการณ์ระทึก! ชายเร่ร่อนไม่รับน้ำใจ ทำลายทรัพย์สิน แถมปรี่จะทำร้าย ด้านโซเซียลเตือน เคยเจอแบบเดียวกันมาแล้วหลายราย!
วันที่ 25 พ.ค. 66 สาวเชียงรายนำประสบการณ์ระทึก หลังเจอชายเร่ร่อนข้างทาง หวังดีอยากเข้าไปช่วยเหลือ แต่ชายแปลกหน้าไม่รับน้ำใจ แถมยังพูดจาไม่ดี ไล่ให้ไปที่อื่น และยังมีท่าทีปองร้าย จึงนำเรื่องที่พบเจอไปโพสต์ในเฟซบุ๊กหวังเตือนภัย และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยนำตัวไปดูแล เพราะหวั่นเป็นอันตรายกับคนอื่นในอนาคต

ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม น.ส.อลิสา อายุ 25 ปี บ้านห้วยบงทุ่งฝาย ม.8 ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.20 น. วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนและแฟนขับรถเก๋งกลับมาจากไปทำธุระที่ตลาดล้านเมือง กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน ช่วงที่เป็นทางแยกจะเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน พื้นที่บ้านสันทรายน้อย ม.2 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ตนสังเกตเห็นคนเร่ร่อนเดินอยู่ริมถนน ใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลลายดอก ท่อนล่างสวมผ้าถุงสีน้ำเงินลายดอก ทีแรกตนคิดว่าเป็นผู้หญิง แต่จากที่ได้พูดคุยก็คิดว่าน่าจะเป็นผู้ชายมากกว่า ด้วยความที่ตนเห็นคนเร่ร่อนหรือขอทานก็จะเข้าไปช่วยเหลือตลอด ครั้งนี้เมื่อเห็นคนดังกล่าวก็อดสงสารไม่ได้ จึงให้แฟนจอดรถข้างทางและลงไปหาคนดังกล่าว ซึ่งได้เดินไปนั่งพักที่ศาลารอรถข้างทาง ขณะที่ตนกำลังจะเดินไปสอบ ถามและยื่นธนบัตรใบละ 20 บาท 3 ใบในมือ รวมเป็นเงิน 60 บาท เพื่อจะให้เขาเอาเงินไปซื้อกับข้าวของจำเป็นอื่นๆ ด้วยความหวังดี แต่คนดังกล่าวกลับปัดมือที่ถือเงิน และมือถือราคาหมื่นกว่าที่เพิ่งซื้อได้แค่วันเดียวร่วงตกพื้น แถมยังไล่ตนเสียงดัง ชิ้ว ชิ้ว! เหมือนกับไล่สุนัข และยังยกไม้เท้าและเงื้อกรรไกรในมือหมายจะเข้ามาทำร้ายตนอีก จนน้องนักศึกษาชาย 2 คน ที่กำลังรอรถในศาลาต้องเข้ามาถามตนว่า เป็นอย่างไรบ้าง โดนทำร้ายหรือเปล่า
“จากเหตุการณ์ที่พบเจอ ยอมรับว่านาทีนั้นตนตกใจเป็นอย่างมาก เพราะความหวังดีอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่กลับถูกไล่เหมือนหมูหมา จึงอยากนำเรื่องราวไปเผยแพร่เพื่อเตือนคนอื่นๆ ซึ่งหลังจากได้โพสต์ไปไม่นาน ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า เคยพบกับบุคคลดังกล่าวมาแล้ว และเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกับที่ตนเจอมาด้วย ก็อยากให้หน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้องได้เข้ามาดูแล เพราะหวั่นเป็นอันตรายกับคนอื่น อย่างไรก็ตาม ถึงตนจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ในอนาคตหากตนได้ไปเจอคนเร่ร่อนหรือขอทานข้างถนน ตนก็ยังอยากจะช่วยเหลือตามกำลังที่มีอยู่ดี เพราะเขาอาจจะเดือดร้อนไม่มีที่พึ่งจริงๆ ก็ได้” น.ส.อลิสา กล่าว










ร่วมแสดงความคิดเห็น