พบเบาะแสหนุ่มม้ง สูญหายในไร่ที่อิสราเอล

พบเบาะแสหนุ่มม้ง สูญหายในไร่อโวคาโด คาดถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน

วันที่ 14 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีหนุ่มม้งที่หายตัวไปในช่วงการสู้รบกันของทหารอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ที่บริเวณฉนวนกาซา และญาติติดต่อไม่ได้มาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่เริ่มมีการยิงกัน ญาติพี่น้องต่างร้อนใจ ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่ล่าสุดทราบว่าทางญาติได้รับเบาะแสสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนุ่มคนงานที่ขาดการติดต่อไป จึงอยากให้ทางการช่วยประสานตามหาตัวและพากลับบ้าน

ที่บ้านเลขที่ 192 บ้านกิ่วดอยหลวง ต.ริมโขง จ.เชียงราย น.ส.สุนทรี แซ่ลี อายุ 28 ปี ภรรยา ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนนี้คนที่ทำงานที่อิสราเอลได้พบภาพชายที่คาดว่าจะเป็นสามี คือ นายกง แซ่เล่า อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 1 หมู่ 9 ต.เทอดไท อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จาก Steaming ในโซเชี่ยล จึงส่งให้ตนเองดูโดยมั่นใจว่าเป็นสามี จึงขอให้หน่วยงานช่วยติดตาม ขณะนี้ได้แจ้งไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัดเชียงราย และอำเภอเชียงของแล้ว เพราะแม้ชื่อจะอยู่ที่อำเภอแม่ฟ้าหลวงแต่นายกงได้ย้ายมาใช้ชีวิตอยูที่เชียงของก่อนเดินทางไปทำงานอิสราเอล ตอนนี้ดีใจที่เห็นข่าวของสามีทำให้มีความหวังว่านายกงจะปลอดภัย

ทั้งนี้นายกง ได้ขาดการติดต่อไปวันที่ 7 ประมาณ 11.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย ขณะคุยได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด โดยเพื่อนที่หนีออกมาได้เป็นเพื่อนคนม้งที่หนีออกมากับคนงานคนอิสาน 1คน บอกว่านายกงกับคนงานที่เป็นคนอิสานอีก 3 คน ยังอยู่ในแคมป์อโวกาโด ตอนที่ตัวเองหนีออกมา โดยที่พักนี้จะอยู่กลางสวนและอยู่ห่างจากฉนวนกาซ่าประมาณ 3 กม. หลังจาก น.ส.สุนทรี พยายามหาข่าวจากเพื่อน และเพื่อนของเพื่อนให้ช่วยติดตาม จนสามารถระบุตำแหน่งพื้นที่แคมป์ได้ และในที่สุดได้พบภาพจากโซเชียลได้เมื่อคืนที่ผ่านมา

ด้านนายวิรุฬห์ สิทธิวงค์ นายอำเภอเชียงของ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้ไปดูแล น.ส.สุนทรีแล้วครอบครัว โดยจะนำทีมสหวิชาชีพที่ให้การช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤตของ รพ.เชียงของ เข้าไปดูแลครอบครัวของผู้สูญหายด้วย และในเชียงของได้มีคำร้อง 1ราย ของจากกำนันตำบลเวียง แจ้งว่า นายวีระ คำตั๋น หมู่ 9 ต.เวียง ทำงานอยู่อิสราเอล ต้องการให้หน่วยงานช่วยพากลับบ้าน

ด้านนางวิไลพร แซ่ย้า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านกิ่วดอยหลวง ต.ริมโขง กล่าวว่า เนื่องจากนายกงไม่ได้มีทะเบียนอยู่ในหมู่บ้านจึงได้อยู่ในรายชื่อที่แจ้งไป แต่ทางครอบครัวได้ประสานไปที่สำนักงานแรงงานก่อนหน้านี้ ส่วนคนอื่นยังไม่มีครอบครัวไหนมาแจ้งขอความช่วยเหลือ

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวอีกว่า ในหมู่บ้านกิ่วดอยหลวง และหมู่บ้านกิ่วกาญจน์ ที่อยู่ติดกันนี้ แต่ก่อนเป็นหมู่บ้านเดียวกัน คนหนุ่มในหมู่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ไปทำงานที่อิสราเอล 20 กว่าคน แทบไม่เหลือคนหนุ่มในหมู่บ้าน และจำนวนหนึ่งก็ไปทำงานเกาหลีใต้ แล้วแต่ว่าใครจะสมัครผ่านเกณฑ์การคัดเลือกไปประเทศไหนได้ ส่วนใหญ่คนหนุ่มคนม้งทุกคนจะหาทางไปทำงาน จนในหมู่บ้านจะเหลือแต่คนแก่ ผู้หญิง และเด็ก เพราะทุกคนต้องหาเงินมาใช้หนี้และค่าใช้จ่ายเดี๋ยวนี้สูงมาก เงินไม่พอใช้ต้องหามาเลี้ยงครอบครัว ส่วนใหญ่จะไปกันประมาณ 3-5 ปี ให้พอใช้หนี้ค่าเดินทาง และมาซื้อรถและสร้างบ้านถึงจะกลับ พอเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้มีทั้งคนอยากกลับและไม่อยากกลับเพราะต้องการจะหาเงินให้ได้ตามที่ตั้งใจก่อน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เชียงราย – หนุ่มเชียงรายถูกฮามาสจับ ภรรยาวอนรัฐช่วยด่วน https://www.chiangmainews.co.th/topstories/3107537/

ร่วมแสดงความคิดเห็น