หัวหน้ากองทุนฟื้นฟูฯ เผยเหตุถูกร้องเรียน อาจเป็นเพราะไม่ตรวจรับโครงการในบางพื้นที่ ไม่กังวลเพราะทำงานตามหน้าที่ พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงตามขั้นตอน
จากกรณีที่เครือข่ายเกษตรกรจังหวัดลำปาง รวมตัวกันประมาณ 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือ เพื่อขับไล่หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดลำปาง โดยให้เหตุผลว่า มีพฤติกรรมก้าวร้าวไม่มีสัมมาคารวะ ต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ชอบข่มขู่และค่าเกษตรกร ไม่จัดให้มีประชุมอนุกรรมการระดับจังหวัด ฯลฯ

น.ส.อธิภัทร ก้อวงค์ หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า กรณีที่มีการรวมตัวมาร้องเรียนและขับไล่ตนเองที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง คาดว่าจะมาจากสาเหตุที่ทาง สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้อนุมัติโครงการที่ชาวบ้านขอเงินเข้ามา เพื่อนำไปจัดซื้อหมู และวัว เมื่อโอนเงินให้กลุ่มชาวบ้านแล้ว จะต้องมีการจัดตั้งกรรมการตรวจรับงาน เพื่อให้เป็นไปตามรายการขออนุมัติไว้ แต่มีชาวบ้านอยู่กลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการ 10 คน ขอวงเงินไป 3 แสนบาท เมื่อตนลงพื้นที่ไปติดตามโครงการร่วมกับคณะกรรมการตรวจรับ กลับพบว่าไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในโครงการ จึงแจ้งให้ไปแก้ไข ซึ่งการติดตามโครงการครั้งแรกจะเป็นการประชุม และให้คำแนะนำ แต่ถ้ายังไม่แก้ไข ครั้งที่ 2 จะมีการทำหนังสือแจ้งเตือน และครั้งที่ 3 จะต้องสั่งให้ยกเลิกโครงการ คิดว่าสาเหตุของการร้องเรียนมาจากเรื่องนี้ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ไปร่วมสังเกตการณ์ เมื่อเห็นภาพของผู้ยื่นหนังสือก็แปลกใจ เพราะไม่รู้ว่าผู้ที่มาร้องเรียนเป็นใคร ไม่ใช่ผู้ที่เดือดร้อนจริง
หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ กล่าวอีกว่า ส่วนการร้องเรียนเรื่องที่ไม่มีการจัดประชุมคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด ตอนนี้คณะอนุกรรมการฯ อยู่ระหว่างรับสมัคร และการสรรหา ตามจริงต้องมีการแต่งตั้งมาแล้ว แต่ติดปัญหาภายในที่กำลังตรวจสอบกันอยู่ จึงยังไม่สามารถแต่งตั้งได้ ทำให้ไม่มีการประชุมเพราะยังไม่ชัดเจน เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับตนเองเลย

ส่วนเรื่องการพาเกษตรกรไปขายของ และไม่มีค่าอาหาร ค่าที่พักให้นั้น อยู่ที่แต่ละโครงการว่ามีงบประมาณมาเท่าไร อย่างไรบ้าง ซึ่งบางโครงการก็ไม่มีงบประมาณให้ ทางสำนักงานเพียงแต่จัดการหาสถานที่เพื่อให้เกษตรกรมีจุดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น แต่ก็ยังมีคนไม่พอใจอีก ซึ่งเรื่องนี้ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นประเด็นที่จะร้องเรียนกัน
ก่อนหน้านี้เคยโดนร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง แต่ตนเองไม่ได้กังวล เพราะทำงานตามหน้าที่และผลงานเป็นที่ประจักษ์ เรามาทำงานก็อยากให้เงินงบประมาณของรัฐไปถึงประชาชนจริงๆ สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้จริง เป็นเจตนารมณ์ของสำนักงาน แต่ก็คิดว่าเรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากล และไม่เป็นธรรมกับตนเอง ซึ่งก็รอการชี้แจงตามขั้นตอนต่อไป น.ส.อธิภัทร กล่าว





ร่วมแสดงความคิดเห็น