ปปช.แม่ฮ่องสอน เผย ยังไม่ได้รับเรื่องจากทาง พนักงานสอบสวน เพราะทาง ตำรวจมีอำนาจในการสอบสวนภายในระยะเวลา 30 วันและต้องส่งเรื่องมายัง ปปช. เรื่องดังกล่าวถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมสามารถดำเนินการทุจริตได้ และทาง สตง. ไม่มีการตรวจสอบหรือไม่อย่างใด
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.30 น.นางศรสวรรค์ ปุญญัตติวรัณ พนักงานไต่สวนระดับกลาง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว กรณีที่มีการแจ้งความจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ดำรงตำแหน่งในองค์การบริหารส่วนตำบลแม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ทางสำนักงาน ปปช.แม่ฮ่องสอน ยังไม่ได้รับเรื่องการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน สภ.สบเมย เนื่องจากทาง ตำรวจมีอำนาจในการสอบสวนภายในระยะเวลา 30 วัน จากนั้นต้องส่งเรื่องมายัง ปปช.เพื่อที่ทาง ปปช.จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด ซึ่งหากมีการส่งเรื่องมาทาง ปปช.แม่ฮ่องสอน พร้อมที่จะดำเนินไต่สวนเอาผิดกับบุคคลที่กระทำความผิดในทันที
ก่อนหน้านั้น นายสุรศักดิ์ ใจคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่คะตวน ได้มีการเข้าแจ้งความ ต่อร้อยตำรวจเอกรัฐพล ธัญชวนิช รอง สว.(สอบสวน) สภ.สบเมย เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ว่าได้มีการตรวจสอบพบเงินในบัญชีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.แม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน หายไปกว่า 26 ล้านบาท โดยเบื้องต้นพบว่าพนักงาน สังกัดกองคลัง อบต.แม่คะตวน ได้มีการยักยอกเงินองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมานานนับ 1 ปี ซึ่งในชั้นต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.สบเมย จะได้ทำการตรวจสอบ เส้นทางการเงินเข้าออกบัญชีของผู้ถูกกล่าวหา และ ขอเอกสารหลักฐานเส้นทางการเงินจากธนาคารที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีส่งต่อให้กับทาง ปปช. ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าไม่สามารถควบคุมตัวไว้ ณ สภ.สบเมยได้ เนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการ ทำผิดกฎหมายและวินัย ป.ป.ช. ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ตำรวจ และอยู่ระหว่างเจรจาให้พนักงานส่วนตำบลรายดังกล่าวฯ คืนเงินให้แก่ อบต. หากผลเป็นประการใด สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะเร่งรายงานโดยด่วน
แหล่งข่าวข้าราชการระดับสูงในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ทันที ก่อนที่จะมีการซ่อนเร้นทำลายหลักฐานการกระทำผิด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ที่ทุจริต ต้องได้รหัสอิเลคทรอนิกค์จากบุคคลผู้บริหาร ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 3 คน จึงจะสามารถกระทำความผิดได้ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมทาง สตง. ไม่มีการตรวจสอบหรือไม่อย่างใด ถึงปล่อยให้มีการลักลอบทุจริตเงินไปถึง 26 ล้านบาท
ร่วมแสดงความคิดเห็น