หยุดเขื่อนปิดสวิตผันน้ำยวม คืนแม่น้ำให้ชุมชน

เครือข่ายชุมชนลุ่มแม่น้ำสาละวิน ยวม เมย เงา ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมคัดค้านการผลักดันโครงการผันน้ำยวม ที่มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 170,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิของคนในพื้นที่และสิ่งแวดล้อม

ในวันที่ 14 มีนาคม ของทุกปี ในทางสากลได้กำหนดให้เป็นวันรณรงค์แม่น้ำสากล หรือ International River Day of Action สำหรับในปีนี้เครือข่ายชุมชนลุ่มแม่น้ำสาละวิน ยวม เมย เงา ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมคัดค้านโครงการผันน้ำยวม ที่มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 170,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิของคนในพื้นที่และสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก โดยมีชาวบ้านในพื้นที่มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้กว่า 200 คน ท่ามกลางหมอกควันที่ปกคลุมอย่างแน่นหนาในช่วงกลางเดือนมีนาคม



โดยมีกิจกรรมรณรงค์หลายกิจกรรม ระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม เริ่มจากการแข่งฟุตบอลต้านอุโมงค์ผันน้ำของกลุ่มเยาวชน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างชุมชนต้นน้ำและปลายน้ำ มีการเดินขบวนรณรงค์ของชาวบ้าน การนำเสนอข้อมูลของชุมชนต้นน้ำและท้ายน้ำต่อผู้เข้าร่วมและสื่อมวลชน การเสวนาทางวิชาการ และปิดท้ายด้วยการอ่านแถลงการณ์ของชาวบ้าน โดยมีตัวแทนกรมทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ และตำรวจ สภ.สบเมย เข้าร่วมสังเกตุการณ์ ณ บริเวณแม่น้ำสองสี ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน



โดยนายสะท้าน ชีววิชัยพงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำยวม น้ำเงา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แม่ฮ่องสอน เขต 2 พรรคก้าวไกล ได้กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบมีความตื่นตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความกังวลถึงผลกระทบต่อวิถีชีวิตและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งแม่น้ำยวมและแม่น้ำเงา โดยกลุ่มเยาวชนได้ร่วมกันจัดแข่งขันฟุตบอลต้านอุโมงค์ผันน้ำ เพื่อรณรงค์กันในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเครือข่ายชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งชุมชนที่อยู่ต้นน้ำคืออำเภอสบเมย และท้ายน้ำคืออำเภอฮอด จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อคัดค้านโครงการนี้ นอกจากนี้นายสะท้าน ยังกล่าวว่าชาวบ้านได้มีมติร่วมกันในเวทีเสวนาเรียกร้องให้รัฐบาลยุติโครงการดังกล่าวนี้ ภายใต้ข้อเสนอ “ปิดสวิตผันน้ำยวม คืนแม่น้ำให้ชุมชน” โดยมีเหตุผล 4 ประการ คือ

1. กรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการตรวจสอบตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียน และมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ให้ยุติโครงการ โดยให้เหตุผลว่าการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้ทำโดยไม่ถูกต้องตามขั้นตอนทางกฎหมาย ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนและมีการใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และโครงการนี้จะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน อีกทั้งยังเป็นการทำลายฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2. การทำโครงการนี้จะทำลายระบบคุณค่าของชุมชนและระบบนิเวศน์ดิน น้ำ ป่าในพื้นที่ ตามรายงานการศึกษาวิจัยที่ทำร่วมกันระหว่างศูนย์ชาติพันธุ์และการพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่

3. ความเห็นของนักวิชาการด้านทรัพยากรน้ำ ที่ชี้ว่าความจริงแล้วพื้นที่ภาคกลางไม่ได้ขาดแคลนน้ำ ในทางตรงกันข้ามในทุกๆ ปีจะมีปริมาณน้ำมากกว่าปริมาณความต้องการใช้น้ำ หากแต่ไม่มีระบบจัดเก็บและบริหารจัดการให้เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น รัฐควรหันมาทุ่มงบประมาณให้กับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ ซึ่งจะสมารถแก้ไขทั้งปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งได้ในคราวเดียวกัน


4. โครงการนี้ถูกผลักดันในยุคของรัฐบาลทหารตั้งแต่หลังปี พ.ศ.2557 เป็นต้นมา รัฐบาลจึงเดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงของผู้เดือดร้อน บัดนี้การเมืองไทยกำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยมากขึ้นแล้ว รัฐบาลควรยุติโครงการนี้

ทางด้าน นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ อดีตคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณา EIA กล่าวในเวทีเสวนาว่า ตนเคยอ่านรายงาน EIA จำนวนมาก สำหรับรายงาน EIA โครงการผันน้ำยวมพบว่ามีปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่ตั้งโครงการนี้มีความเฉพาะคือ เป็นพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์ปกาญอ ซึ่งมีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเฉพาะและแตกต่างออกไป แต่ในรายงาน EIA กลับหลีกเลี่ยงโดยระบุเพียงว่าเป็นคนไทยภาคเหนือ
นอกจากนี้นายสิงห์คาน เรือนหอม กล่าวว่า แม้ตนจะเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ก็อ่านออกเขียนได้ เมื่อเอาเอกสารรายงาน EIA มาดูแล้วก็พบว่าสิ่งที่เขาเขียนไว้ไม่ตรงกับความจริงเลย เช่น บอกว่ามีคนที่จะได้รับผลกระทบเพียงหนึ่งรายเป็นชาวเมียนมาร์ แต่ความจริงมีชาวบ้านอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากแม่น้ำเงาและแม่น้ำยวมจำนวนหลายพันคน ซึ่งจะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน แต่ไม่ถูกเขียนไว้ในรายงาน



โดยก่อนเสร็จสิ้นกิจกรรม นางสาวบัวขาว ศิลาพิทักษ์ ตัวแทนชาวบ้าน ได้แถลงการณ์เน้นย้ำว่าเครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำสาละวิน ยวม เมย เงา เห็นรายงาน EIA จัดทำโดยขาดการมีส่วนร่วมและข้อมูลไม่ถูกต้อง รวมทั้งโครงการนี้ไม่คุ้มค่าการลงทุนและทำให้เสื่อมเสียต่อคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม จึงเรียกร้องให้ถอนโครงการนี้รวมทั้งโครงการที่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด

ร่วมแสดงความคิดเห็น