เสาไฟส่องสว่างทางหลวงชนบทไฟรั่ว ข้างทางห่างโรงเรียน 30 เมตร ช็อตวัวตายคาที่
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 18.00 น. ได้เกิดฝนฟ้าคะนอง ในพื้นที่ตำบลสะเนียน โดยเฉพาะที่เสาไฟส่องสว่างบริเวณด้านหน้ารั้วโรงเรียนบ้านปางเป๋ย หมู่ 6 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เกิดเหตุช็อตวัวตายคาที่ 1 ตัว รอดตาย 1 ตัว ส่วนเจ้าของวัวที่จูงวัวมาหวิดตาย
โดยชาวบ้านถ่ายคลิปวีดีโอช่วงเวลาหลังเกิดเหตุไว้ จวกยับห่างโรงเรียน 30 เมตร นักเรียนเดินสัญจรผ่านจุดนี้ หากรั่วช่วงโรงเรียนเลิกแล้วฝนตก คงเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่มีการสูญเสียประเมินค่าไม่ได้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กองช่างเข้าตรวจสอบเสาไฟดังกล่าว โดยเปิดบริเวณช่องซ่อมบำรุงเสาไฟ พบว่ามีสายไฟช็อตติดอยู่กับเสาไฟอย่างชัดเจน และพบเทปพันสายเสี่ยมสภาพและทำให้สายทองแดงไปชิดกับเสาไฟส่องสว่างที่เป็นเหล็ก
ด้าน นายพิมล เยี่ยมยุทธวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านปางเป๋ย หมู่ที่ 6 ตำบลสะเนียน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ระหว่างที่ชาวบ้านจํงวัวกลับบ้านผ่านเสาไฟส่องสว่างต้นดังกล่าว พบว่า มีวัวตัวหนึ่งเกิดอาการยืนแข็งและเกิดการสั่น แล้วกระโดดหนี แล้ววัวอีกตัวเกิดอาการแข็งทื่อแล้วสั่นร้องเสียงดังลั่นแล้วล้มลงไปชักและแน่นิ่งไป พยายามดึงเชือกจูกก็ไม่ไหวติงคาดว่าตายแล้วจากสาเหตุไฟฟ้าช็อตแน่ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ และเข้ามาทำการตัดไฟแล้วกู้ซากวัว โดยวัวตัวดังกล่าวเป็นวัวที่ใช้เงินจากโครงการพลังประชารัฐ แล้วจะต้องใช้คืนหลังครบ 5 ปี
ด้าน นายวิชาญ ปวนสุรินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปางเป๋ย กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวเรามีความเป็นห่วงความปลอดภัยของนักเรียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นทางเดินสัญจรทางเท้าของเด็กที่เดินจากบ้านมาโรงเรียน และจากโรงเรียนกลับบ้าน หาก ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ประชาสัมพันธ์ให้นัเรียนระมัดระวังอย่าเข้าใกล้เสาไฟ หรือเสาไฟส่องสว่างหากเกิดฝนตก อยากใกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสภาพสายไฟที่อุปกรณ์ให้มีความปลอดภัย
ด้าน นายประดิษฐ พฤฒิพรรลาย ผู้อำนวยการ แขวงทางหลวงชนบท น่าน เปิดเผยข้อมูลว่า จากกรณีดังกล่าว เป็นเหตุสุดวิสัย เกิดจากการเสื่อมสภาพของเทปพันสายไฟที่ติดตั้งมาแล้วกว่า 4 ปี จนทำให้สายทองแดงไปแตะชิดกับโลหะที่เป็นเสา จนทำให้กระแสไฟรั่วบริเวณดังกล่าว กอรปกับช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกแล้ววัวเข้าไปใกล้จนเกิดไฟดูดวัวจนทำให้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าวทาง แขวงทางหลวงชนบทน่านต้องขออภัยกับเหตุสุดวิสัยดังกล่าว
โดยหลังจากทราบเรื่องแล้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการค้นหาสาเหตุและแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้จรวจเช็คเสาไฟในบริเวณดังกล่าวจำนวน 30 ต้น ให้มีความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเสาไฟฟ้าส่องสว่างในเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้งจังหวัดน่านเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สุดวิสัยขึ้นอีก
ส่วนด้านความเสียหายจากกรณีดังกล่าว แขวงทางหลวงชนบท น่าน ได้ชดใช้ค่าเสียหายตามที่ผู้เสียหายร้องขอจนเป็นที่พอใจแล้ว
ทั้งนี้ แขวงทางหลวงชนบท น่าน และกรมทางหลวงชนบท ต้องขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการตรวจสอบเสาไฟในความรับผิดชอบ ให้อยู่ในสภาพปลอดภัยต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น