(มีคลิป) น่าน รวบพระดัง เสพเมถุนสามเณร

YouTube video

นำตัวพระเลขาเจ้าอาวาสวัดหลวงกลางเวียง เสพเมถุนสามเณรวัย 15 ปี เข้าซังเต หลังหลบหนีจากวัดตามรวบคาโรงแรมหรู

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน เดินทางไปรับตัว พระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ อายุ 41 ปี หลังตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ ตำรวจภูธร จ.น่าน ตามรวบตัวได้คาโรงแรมหรูใกล้สนามหลวง กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับศาล จ.น่าน ที่ จ.186/2565 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565

แจ้ง 2 ข้อหาหนัก กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม หลังตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับตำรวจภูธร จ.น่าน สืบทราบมาว่า พระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ อายุ 41 ปี เข้าพักอาศัยอยู่ภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แถวสนามหลวง กรุงเทพฯ เพื่อตามรอยพระปลัดธเนศพระรุ่นพี่ที่หลบหนีไปได้ก่อนหน้านี้

โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงวางแผนจับกุม โดยออกอุบายว่าเป็นแม่บ้านของโรงแรม เข้าไปเคาะประตู เมื่อพระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ อายุ 41 ปี ได้เปิดประตู เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวพร้อมหมายจับ ทำการจับกุมตัว โดยพระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ อายุ 41 ปี ได้รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ใช้มือจับอวัยวะเพศ และสวมกอดสามเณรจริง แต่ปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ทำอนาจารผู้เสียหาย หรืออมอวัยวะเพศของสามเณรแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ได้นำ พระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ ไปทำการสึกจากความเป็นพระ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก พม.น่าน และบิดามารดา ได้พาสามเณร อายุวัย 15 ปี เข้าพบ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.ภ.จ.น่าน และพ.ต.ท.ทนงศักดิ์ พิชญ์วิชชาธรรม รอง ผกก.สส. สภ.เมืองน่าน พนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่าสามเณรได้ถูก พระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ ล่วงละเมิดทางเพศ

โดยก่อนหน้านี้ สามเณรรูปดังกล่าวได้บวชเรียนอยู่โรงเรียนนันทบุรี แผนกพระปริยัติธรรม ที่ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุช้างค้ำ วรวิหาร และจำวัดสังกัดวัดพระธาตุช้างค้ำ วรวิหาร ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 จนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 สามเณรได้รับหน้าที่ให้ไปปิดพระวิหารเพียงคนเดียว แล้วพระมหาอภิวรรณฯ เดินเข้ามาหาและบอกว่าให้ไปช่วยงานเอกสารที่กุฏิเจ้าอาวาส สามเณรก็ได้เข้าไปช่วยงานจนถึงเวลา 22.00 น. สามเณรรู้สึกง่วงนอนจึงขอตัวกลับไปจำวัด แต่พระมหาอภิวรรณ บอกว่าให้นอนที่ห้องของพระมหาอภิวรรณ จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น. สามเณรรู้สึกตัวและสะดุ้งตกใจตื่น เมื่อพระมหาอภิวรรณ ได้ถลกสบงของสามเณรขึ้นและกำลังใช้ปากอมอวัยวะเพศของสามเณรอยู่ สามเณรจึงดิ้นขัดขืนแต่ไม่สามารถสู้แรงได้ ประกอบกับสามเณรมีอาการเจ็บหลังพร้อมทั้งอาการเพลียจึงหลับไป จนเวลา 06.00 น. สามเณรได้สะดุ้งตื่นและพบว่าพระมหาอภิวรรณ นอนอยู่ข้างๆ จึงรีบเก็บของออกไปกฏิของสามเณรโดยไม่บอกใคร

จากนั้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 สามเณรได้ไปเตรียมงานเข้าพรรษา พระมหาอภิวรรณ ได้ให้สามเณรไปช่วยงานเอกสารที่กุฏิเจ้าอาวาสอีก แต่สามเณรรู้สึกไม่สบาย พระมหาอภิวรรณ จึงบอกให้สามเณรไปนอนพักที่ห้องของตน จนเวลาประมาณ 13.00 น. พระมหาอภิวรรณ ได้เข้ามากอดจูบลูบคลำและจับอวัยวะเพศจนแข็งตัว แล้วเดินออกจากห้องไป

ภายหลัง จากกรณีเปิดโปงพฤติกรรมอื้อฉาวของ “พระปลัดธเนศ” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารพระอารามหลวง จ.น่าน และหัวหน้าฝ่ายปกครองโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดดังกล่าว ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศสามเณรลูกศิษย์ ที่บวชเรียนอยู่รูปหนึ่ง พร้อมทั้งข่มขู่ว่าหากสามเณรรายใดขัดขืน หรือนำเรื่องไปเผยแพร่ ก็จะไม่ได้รับทุนเรียนต่อ โดยทำมานานกว่า 2 ปี ทาง สภ.เมืองน่าน จึงตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ แต่ระหว่างนั้นพระปลัดธเนศ ชิงหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปได้ก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวก่อนหน้านี้ สามเณรจึงขอทวงความยุติธรรมเนื่องจากตนเป็นหนึ่งในผู้ถูกกระทำ

อย่างไรก็ตาม หลังเรื่องถูกเผยแพร่ไปสื่อต่างๆ สามเณรอีกรูปหนึ่งพร้อมบิดามารดาจึงเข้าแจ้งกับทาง สภ.เมืองน่าน ว่าถูก พระมหาอภิวรรณ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองเลขานุการเจ้าอาวาสวัดกระทำชำเราในลักษณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ทราบว่า พระมหาอภิวรรณ หลังทราบว่าตนเองถูกแจ้งเอาผิดจึงรีบชิงหลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวน พระมหาอภิวรรณ ยืดอกให้การรับสารภาพว่าได้ล่วงละเมิดสามเณรรูปดังกล่าวจริง แต่อยากให้สังคมรับรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำส่วนตัวไม่เกี่ยวกับวัด เบื้องต้นจึงนำตัวไปทำการสึกพร้อมส่งตัวมาที่ สภ.เมืองน่าน ท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.ภ.จ.น่าน กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวเหตุเกิดขึ้นมานานแล้ว แล้วทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความที่ตำรวจภูธร จ.น่าน จึงกำชับให้พนักงานสอบสวนให้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิด เมื่อไปติดตามตัวที่วัดผู้ต้องหาไม่อยู่วัด จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลังฐานเพียงพอ ที่จะดำเนินการเอาผิดผู้เสียหาย อยู่แล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น