พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ส่งคณะทำงานลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า ในการดำเนินโครงการฯ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในพื้นที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 14.00 น. พลเรือเอก พิเชฐ ตานะเศรษฐ หัวหน้าคณะทำงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) และคณะ ลงพื้นติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ตำบลนาเหลือง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมของคณะทำงาน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในอำนาจของ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในพื้นที่ตำบลนาเหลือง โดยมีที่ทำการปกครองอำเภอเวียงสา เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ โดยคณะได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า 3 แห่ง ดังนี้ คณะทำงานฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความพร้อม และความเหมาะสม โครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณงบกลางฯ ประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2566 โครงการขุดลอกห้วยดินสี บ้านตาลชุม หมู่ที่ 7 ตำบลตาลชุม อำเภอเวียงสา งบประมาณ 493,000 บาท โดยมีอำเภอเวียงสา เป็นหน่วยดำเนินการ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ให้มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคและทำการเกษตร และฟื้นฟูสถาพแหล่งน้ำเดิมให้สามารถกักเก็บน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถกักเก็บน้ำได้ 8,100 ลบ.ม.โดยมีประชาชนผู้ได้รับประโยชน์ จำนวน 214 ครัวเรือน 429 คน

คณะทำงานฯ ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามโครงการระบบจัดหาน้ำสะอาด เพื่อการอุปโภคและบริโภค POG TANKS ขนาด L รองรับ 121-300 ครัวเรือน กำลังการผลิต 10 ลบ.ม./ชั่วโมง บริเวณบ้านนาเหลืองในหมู่ที่ 1 ตำบลนาเหลือง อำเภอเวียงสา งบประมาณ 5,200,000 บาท ซึ่งในอดีตด้วยพื้นที่บ้านนาเหลืองในหมู่ที่ 1 ตำบลนาเหลือง ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคที่สะอาด น้ำประปาที่ใช้ไม่สามารถใช้ดื่มได้ มีตะกอนสีน้ำตาลปน ประชาชนใช้น้ำประปาเพื่ออุปโภคเท่านั้น ไม่สามารถใช้บริโภคได้ ต้องซื้อน้ำสำหรับดื่ม ทำให้กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน โดยอาศัยอ่างเก็บน้ำห้วยน้อยเป็นแหล่งน้ำดิบ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตน้ำประปา มีปริมาณน้ำ58,911 ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จประชาชนบ้านนาเหลืองใน หมู่ที่ 1 ตำบลนาเหลือง ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานตามโครง การ โดยมีน้ำสะอาดเพื่ออุปโภค-บริโภค ทั้งหมด 309 ครัวเรือน จำนวน 813 คน

จากนั้น คณะทำงานฯ ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างฝายน้ำล้น (ลำห้วยนาเหลือง) ลูกที่ 2 บ้านนาเหลืองใน หมู่ที่ 1 ตำบลนาเหลือง งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณเป็นเงิน 1,488,000 บาท สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2562 เกิดเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก เป็นเหตุให้ฝายห้วยนาเหลืองลูกที่ 2 พังทลายก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลนาเหลืองใน ด้านการขาดแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภคและการเกษตร ซึ่งปัจจุบันประชาชนในพื้นที่ตำบลนาเหลือง ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานของโครงการคือ สามารถเก็บกักน้ำได้ในช่วงฤดูแล้งเพื่อทำการเกษตร ลดปัญหาภัยแล้ง โดยมีประชาชนได้รับประโยชน์ 318 ครัวเรือนใน 3 หมู่บ้านได้แก่ บ้านนาเหลืองใน บ้านห้วยม่วง และบ้านนาเหลืองนอก พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์ประมาณ 586 ไร่ พร้อมนี้ประชาชนยังได้รับประโยชน์ในการอุปโภค-บริโภคน้ำจากฝายแห่งนี้ 141 ครัวเรือน 627 คน ในพื้นที่ 2 หมู่บ้านคือ บ้านนาเหลืองใน และบ้านห้วยม่วง

ภายหลังจากลงพื้นที่ หัวหน้าคณะทำงานกำกับการปฏิบัติราชการฯ นำเรียนข้อมูลการกำกับการปฏิบัติราชการ ต่อรองนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รายงานข้อมูลโครงการฯ ต่อรองนายกรัฐมนตรี ผู้นำชุมชนและผู้แทนประชาชนกล่าวขอบคุณ รองนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชนในพื้นที่ตำบลนาเหลือง ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค-บริโภคได้เพียงพอตลอดปี
ทั้งนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้พบปะและพูดคุยกับพี่น้องประชาชน ผ่านระบบ Conference พร้อมทั้งกล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องการให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประชาชนต้องการอะไรขอให้บอก และขอให้ข้าราชการทุกส่วน ช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และดูแลประชาชนให้ดีที่สุด



ร่วมแสดงความคิดเห็น