นอภ.เชียงคำ ย้ำงานนี้ไร้ค่าบัตรเข้างาน”อนุสาวรีย์ผู้เสียสละพตท.2324”
เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2565 ที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.เชียงคำ จ.พะเยา นายธวัช จรัสวรภัทร นอภ.เชียงคำ เป็นประธานในการประชุมหารือการเตรียมจัดงานรื่นเริง “งานอนุสรณ์ผู้เสียสละ พตท.2324” ประจำปี 66 ในระหว่างวันที่ 31 ม.ค. – 7 ก.พ.66 ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ได้มีหัวหน้าส่วนราชการ และกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมประชุมในการเตรียมการจัดงานนี้กันอย่างพร้อมเพรียง


นายธวัช กล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์โรคโควิดที่เบาบางลงไปแล้ว อีกทั้งชาวบ้านต้องการคลายเครียดจากสถานการณ์โรคร้ายนี้ ตนจึงได้มีความคิดที่จะนำงานประจำอำเภอกลับมาจัดอีกครั้ง หลังไม่ได้จัดมาเกือบ 3 ปี ซึ่งพื้นที่ในการจัดงานครั้งนี้ จะใช้เหมือนทุกครั้งคือตรงบริเวณสนามบินเก่าของค่ายขุนจอมธรรมโดยจะใช้พื้นที่รันเวย์ครึ่งหนึ่งของทั้งหมด รวมทั้งจะให้ร้านค้าและสวนสนุกอยู่บนรันเวย์ทั้งหมด โดยไม่ให้ลงพื้นดินเพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากฝุ่นในช่วงเวลาจัดงานด้วย นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญคือในการจัดงานประจำอำเภอครั้งนี้ ตนได้วางแผนเอาไว้ว่าในเรื่องบัตรประตูทางเข้านั้น จะไม่มีการจำหน่ายบัตรโดยเด็ดขาดเพราะมองว่าเมื่อชาวบ้านมาเที่ยวแล้ว ทำไมต้องเสียค่าบัตรทางเข้าแล้วต้องไปเสียค่าบัตรต่าง ๆ ภายในงานอีก สู้ให้ชาวบ้านที่มาเที่ยวนั้น เข้าไปเสียค่าบัตรภายในงานทีเดียวจะดีกว่า และหลังจากนี้ในการประชุมครั้งต่อไป ตนจะได้เชิญผู้รับเหมาเข้ามา เพื่อวางแผนการวางผังงาน รวมทั้งรายละเอียดของจุดต่าง ๆ เพื่อให้งานออกมายิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อนด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าชาวบ้านที่มาเที่ยวงานนี้ จะได้ผ่อนคลายจากสถานการณ์โควิดด้วย อีกทั้งในด้านการแข่งขันกีฬานั้น ตนได้ดึงเอาการแข่งขันกีฬาประเภทสตรีทซอคเกอร์หรือฟุตบอลข้างถนนเข้ามา เพราะเชื่อว่าต้องมีผู้สนใจเข้าร่วมเป็นอย่างมาก และตนเองก็ชื่นชอบในกีฬาประเภทนี้ด้วย ซึ่งเคยเห็นรูปแบบการแข่งขันแบบนี้ จากประเทศบราซิลอีกทั้งนักฟุตบอลดัง ๆ ของประเทศบราซิลก็เคยผ่านตรงนี้มาแล้วทั้งหมดด้วย


ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ ได้กล่าวเสริมว่า ในเรื่องของการควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยภายในงานนั้น ตนได้วางกำลังออกเป็นหลายฝ่าย ทั้งของทหาร ร.17 พัน 4 ค่ายขุนจอมธรรม เจ้าหน้าที่ ตชด.326 และเจ้าหน้าที่ ทพ.31 เพื่อให้งานออกมาไร้เหตุที่ทำให้ชาวบ้านผู้มาเที่ยวงานเดือดร้อน อีกทั้งได้เตรียมมาตรการเด็ดขาดไว้แล้ว หากมีกลุ่มวัยรุ่นเกิดการทะเลาะวิวาทภายในงานขึ้นมา เพราะถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่มาได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถเที่ยวชมงานได้ ทั้งนี้หากใครซ่าก็เตรียมถูกดำเนินคดีอย่างจริงจังแน่นอน






ร่วมแสดงความคิดเห็น