เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 17 เม.ย.2566ทางนายพุฒิเมธ พากเพียร กำนัน ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้โทรศัพท์มายัง สภ.เชียงคำแจ้งว่ามีเหตุยิงกันบริเวณหน้าร้านค้าบ้านกอกหมู่ 11 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา ก่อนที่ทาง พ.ต.ต.พิทักษ์พล อิ้มอนงค์ พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.เชียงคำจะแจ้งให้กับทาง พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำทราบ และได้ลงพื้นที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านค้าพบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน 4 ประตูสีส้มจอดอยู่และมีคนเจ็บคือ นายชัยชนะ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช โดยถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบชนิด ขนาด 99 มม. เข้าบริเวณราวนมด้านซ้าย นอนขอความช่วยเหลืออยู่ทั้งนี้ผู้เห็นเหตุการณ์จึงได้รีบพากันนำตัวส่ง รพ.เชียงคำในเวลาต่อมา หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจดูกล้องวงจรปิดของร้านค้าดังกล่าว
ซึ่งในภาพผู้ก่อเหตุที่ยิงนายชัยชนะนั้นคือนายจตุภพ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เป็นชาว จ.ศรีษะเกษ แต่มาอยู่กินกับภรรยาในพื้นที่แห่งหนึ่งของ อ.เชียงคำ โดยจากภาพปรากฏว่าตัวของผู้ก่อเหตุได้ขับรถมาปาดหน้าของรถคู่กรณีก่อนที่จะลงมาจากรถแล้วฝั่งคู่กรณีได้กระโดดเข้าต่อยหน้าผู้ก่อเหตุก่อนจนผู้ก่อเหตุได้ชักปืนขนาด 9 มม.ออกมาขึ้นลำทำท่าว่าจะยิงใส่ แต่ฝั่งคู่กรณีได้ยื้อแย่งอาวุธก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และหลังจากนั้นฝ่ายคู่กรณีได้วิ่งรอบรถของผู้ก่อเหตุหลายรอบแล้วรีบวิ่งเข้าไปในร้านค้าเพื่อหวังหลบกระสุน แต่ฝั่งผู้ก่อเหตุได้ตามเข้าไปก่อนที่หลังจากนั้นจะเดินออกมาแล้วขับรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่น บิ๊กเอ็ม สีบรอน หมายเลขทะเบียน พะเยา หลบหนีไป
พ.ต.อ.เฉลิมชาติ กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองได้เห็นหลังฐานทั้งหมดแล้วจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เชียงคำทำการแกะรอยสัญญาณโทรศัพท์และพบว่าสัญญาณดังกล่าวได้ไปหยุดที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งภายใน อ.เทิง จ.เชียงราย
ทั้งนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนได้แจ้งไปยังพื้นที่ สภ.เทิง จ.เชียงรายเพื่อขอกำลังชุดสืบสวนซึ่งทางผกก.สภ.เทิง พร้อมทั้งชุดสืบสวนในพื้นที่ได้เข้าช่วยเหลือด้วย ก่อนที่ทางพล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ทราบข่าวจึงได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด นปพ.เข้ามาสมทบเพื่อแกะรอยผู้ก่อเหตุพร้อมทั้งเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.คาห้องพักในรีสอร์ท ก่อนที่จะนำตัวมาให้พนักงานสอบสวนที่ สภ.เชียงคำ ทำการสอบสวนอย่างละเอียดพร้อมทั้งได้ตั้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นนั้นทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายเหมือนจะมีเรื่องขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ของการขายยางพาราไม่ลงตัวก่อนที่จะมีปากเสียงกันและจบด้วยการให้อาวุธปืนยิงอีกฝ่าย พร้อมทั้งได้นำภรรยาหนีไปด้วย
ด้านนายจตุภพ ผู้ก่อเหตุได้เล่าว่า ก่อนเกิดเรื่องนั้นตนเองเดิมทีเป็นคนทางอีสานและมาได้ภรรยาที่ อ.เชียงคำโดยตนและภรรยามีลูกติดด้วยกันข้างละ 2 คน หลังจากนั้นพบว่านายชัยชนะ ได้ประกาศตามหาคนกรีดยางซึ่งตนพร้อมทั้งภรรยาก็ได้เดินทางไปสมัครกรีดยางจนเวลาผ่านไป 1 ปี เริ่มมีปัญหาเพราะตัวของนายชัยชนะอ้างว่าไม่ได้รับเงินค่ากรีดยางที่ตนเป็นคนรับจ้างมา 2 เดือนแล้วซึ่งตนเองได้โอนเงินให้เจ้าของสวนตัวจริงที่เป็นน้าของนายชัยชนะ รวมทั้งได้มีการโพสต์บนเฟสบุ๊คของนายชัยชนะประมาณว่าด่าทอตนเองเสีย ๆ หาย ๆ หลายครั้งประมาณว่าตนเองเป็นคนแอบเก็บเงินค่ากรีดยางไว้เองซึ่งปีหนึ่งสามารถขายได้ประมาณ 2 – 3 แสนบาท และล่าสุดภรรยาของตนเองได้ไปเห็นโพสต์ที่ด่าทอตนเองจึงได้ทำการบล็อกเฟสบุ๊คของนายชัยชนะเพื่อไม่ให้ตัวเองเห็น
จนล่าสุดเมื่อวานมีงานบุญตนเองได้ไปดื่มสังสรรค์ก่อนที่จะเห็นรถของนายชัยชนะขับผ่านและหลังจากนั้นตนเองได้ขับรถตามพร้อมปาดหน้าก่อนที่จะลงจากรถมาเคลียร์ปัญหานี้โดยก่อนหน้านั้นตนเองไม่ได้ติดต่อพูดคุยนายชัยชนะแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งนี้ตนเองสอบถามในเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ก็มีปากเสียงตามมาก่อนที่นายชัยชนะจะต่อยตนเองโดนบริเวณใบหน้า
หลังจากนั้นตนเองได้ล้วงปืนไทยประดิษฐ์ขนาด 99 มม.ที่บรรจุประสุนไว้ 1 นัดออกมาขึ้นลำเพื่อขู่ แต่อีกฝ่ายยังปรี่เข้ามาหาตนเองจึงได้มีการต่อสู่กันจนอาวุธปืนลั่นขึ้น ก่อนที่ตนเองจะทำท่าขึ้นลำหลอกจนนายชัยชนะได้หนีเข้าร้านค้าตนเองได้ขับรถหนีออกมาก่อนที่จะไปรับภรรยาที่บ้านซึ่งตนเองได้เล่าให้ภรรยาฟังในเรื่องที่เกิดขึ้นจนภรรยาร้องไห้เสียใจ ซึ่งตนก็ได้พาหลบหนีด้วย และสาเหตุที่ตนหนีมาไกลถึง อ.เทิงนั้นเพื่อหนีมาตั้งหลักรวมทั้งคิดทบทวนและบอกกับภรรยาว่าจะเดินทางไปมอบตัวในเช้าอีกวัน แต่สุดท้ายก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน
ล่าสุดผู้บาดเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้วและกำลังรักษาตัวที่ รพ.เชียงคำอยู่ในขณะนี้
อ่านข่าวต่อ
เปิดนาทีปฏิบัติการปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายจ้างบาดเจ็บ https://www.chiangmainews.co.th/news/2938675/
ร่วมแสดงความคิดเห็น