ชาวไร่ยาสูบบุกศาลากลาง จ.แพร่ ขอให้รัฐบาลสนับสนุนปัจจัยการผลิต-ชะลอลดโควต้า ผลผลิต
31 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00 น. “ผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบแพร่”และ”เครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่” จำนวน 200 คนได้มารวมตัวกันที่ สวนสุขภาพ ร.9 ต่อจากนั้น 10.00 น.จึงจัดขบวนเดินทางไปยื่นหนังสือ ต่อ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ เพื่อขอให้กระทรวงการคลังช่วยเหลือจากปัญหาตันทุนการผลิตใบยาสูบที่เพิ่มสูงและชะลอการลดโควต้าการรับซื้อใบยาสูบฤดูกาลผลิต 2565/66

นายปรัชญา กันทาธรรม เจ้าของโรงบ่มใบยาสูบแม่หล่าย ตัวแทน“ผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบแพร่”และ”เครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่” เปิดเผยว่า “ผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบแพร่”และ”เครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่”เป็นการรวมกลุ่มชาวไร่ยาสูบพันธ์เวอร์จิเนียและผู้บ่มยาสูบในบริเวณพื้นที่จังหวัดแพร่และยังเป็นสมาชิกภาคีเครือข่ายยาสูบแห่งประเทศไทยซึ่งปัจจุบันได้รับความเดือดร้อนจาก การลดโควตาการรับซื้อใบยาสูบของ “การยาสูบแห่งประเทศไทย” ที่จะลดลง 25% ขณะที่ปัญหาต้นทุนปัจจัยการผลิตยาสูบเพิ่มสูงขึ้นกว่า 60 % ทำให้“ผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบแพร่”และ”เครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่”ประสบความเดือดร้อนจนอาจจะไม่สามารถผลิตใบยาสูบต่อไปได้

ที่ผ่านมามีการปรับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในปี พ.ศ 2560 และ พ.ศ 2664 ทำให้ “การยาสูบแห่งประเทศไทย”ประสบปัญหายอดขายลดลง ส่งผลทำให้ “การยาสูบแห่งประเทศไทย”ได้ลดโควต้าการรับซื้อใบยาพันธ์เวอร์จิเนียลงอีก 25 % สำหรับฤดูกาลผลิต 2565/66 ที่กำลังจะถึงนี้

ทาง“ผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบแพร่”และ”เครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่”เห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการลดการรับซื้อที่มากเกินไป เนื่องจากมีการปรับภาษีในปี 2560 ส่งผลทำให้ซาวไร่ยาสูบถูกลดโควต้าเมื่อฤดูกาลผลิตปี 2561/62 เป็นต้นมา หากจะต้องลดโควต้าเพิ่มขึ้นอีกจะทำให้โควต้าใบยาพันธ์เวอร์จิเนียของเกษตรกรจะถูกลดลงไปถึง 56% เลยทีเดียว
นายปรัชญา กันทาธรรม กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันราคาปัจจัยการผลิตยาสูบ ทั้งปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าไฟฟ้า ค่าฟืนและค่าแรงงานมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ตันทุนปัจจัยการผลิตยาสูบใบยาพันธ์เวอร์จิเนียเพิ่มตามขึ้นไปกว่า 60 % ตันทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ได้สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมากแก่“ผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบแพร่”และ”เครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่”

เนื่องจากภาครัฐเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากอุตสาหกรรมบุหรี่จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตซึ่งเป็นจำนวนมากกว่า 60.,000 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งกระทรวงการคลังเป็นผู้กำกับดูแล การยาสูบแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นผู้รับซื้อใบยาสูบจาก“ผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบแพร่”และ”เครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่”
ดังนั้นจึงได้ขอความช่วยเหลือจาก รมว.กระทรวงการคลัง ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ในความเดือดร้อนตามที่กล่าวมานี้ให้กระทรวงการคลังและการยาสูบแห่งประเทศไทยช่วยเหลือจากปัญหาตันทุนการผลิตใบยาสูบที่เพิ่มสูงและซะลอการลดโควต้าการรับซื้อใบยาสูบฤดูกาลผลิต2565/66 เพื่อทำให้ชาวไร่ยาสูบและผู้บ่มใบยาสูบสายพันธ์เวอร์จิเนีย พอที่จะสามารถดำเนินการเพาะปลูกยาสูบต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางด้าน นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้มอบหมายให้ นายธารณ์ ธรรมิกนนท์ ผู้อำนวยการหัวหน้ากลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ มารับหนังสือและเปิดเผยว่าจะนำเรื่องความเดือดร้อนดังกล่าว ส่งถึง รมว.คลัง ในวันนี้และจะแจ้งผลดังกล่าวให้“ผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบแพร่” และ ”เครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดแพร่”ทราบโดยเร็วที่สุด




ร่วมแสดงความคิดเห็น