ฮือฮาเลยทั้ง ภ.จ.แพร่ พ.ต.อ มนตรี ชัยงามเมือง ผกก. (สอบสวนกลุ่มงานสอบสวน ภ.จ.แพร่ ยื่นใบลาออกจากราชการ ก่อนเกษียณอีก 2 ปี เพื่อจะเดินทางไปหามรรคผล ตามรอยพระพุทธเจ้า ระบุจะลาออกวันที่ 1 มกราคม เพื่อมีเวลาเตรียมตัว 1 ปี เริ่ม 1 มกราคม 2566 ในการออกบวชให้สำเร็จมรรคผล เงินเดือนก็ขอเป็นบำเหน็จเพื่อมอบให้ครอบครัว สลัดแล้วซึ่งกิเลส การลาออกไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งใดๆในการทำงานหรือ ลาภยศสรรเสริญ ทั้งๆที่เหลือเวลาทำงานอีก 2 ปี
เรื่องราวนี้เป็นฮือฮา ในวงตำรวจ ภ.จ.แพร่ และโลกโชเชียลในกลุ่มต่างๆ ของการลาออกของ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานงานสอบสวน ภ.จ.แพร่ เพื่อออกเดินตามรอยพระพุทธเจ้า เพื่อให้ได้มรรคผล จนสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ทราบข่าว ที่ ผกก.ระดับนายตำรวจทำไมต้องลาออกก่อนเกษียณ หรืออาจเป็นเพราะถูกแรงกดดันในการทำงาน หรือ มีปัญหาทางครอบครัว ที่สร้างความฉงนในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ที่ห้องทำงานกลุ่มงานสอบสวน บนชั้น 3 ของ ภ.จ.แพร่ ทราบว่า พ.ต.อ มนตรี ชัยงามเมือง ตำแหน่ง ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จ.แพร่ ที่ยอมรับว่า ตนเองได้ยื่นขอใบลาออกกับ พล.ต.ต ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.ภ.จ.แพร่ ซึ่งได้รับยื่นใบลาออกเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว และอนุญาตให้ลาออกได้ จะมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ตามที่ พ.ต.อ มนตรีฯ ได้ระบุวันลาออก
จากการสอบถาม พ.ต.อ.มนตรี ผกก. (สอบสวน) ได้กล่าวว่า จุดประสงค์ในการลาออกนั้น เพื่อจะเจริญรอยตามพระพุทธเจ้า เพื่อบรรลุมรรคผล ที่มนุษย์เรา หากเกิดมาต้องเวียนว่าย ตาย เกิด เช่นนี้ และสุดท้ายก็ต้องมาจบกันที่เชิงตะกอน หนีไม่พ้น ที่หากมนุษย์เรายึดถือศีล 5 แล้ว อย่างเคร่งครัด ก็จะไม่มีอาชญากรรมต่างๆที่เกิดขึ้น เหมือนในปัจจุบัน เจตจำนงที่ลาออก เพราะมีความพร้อมแล้ว ที่ภรรยาและลูกอีก 2 คน ก็มีงานทำในตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นอย่างดี ถือว่า หมดภาระเรื่องของครอบครัว โดยเงินบำนาญจากการลาออกนั้น ได้ขอเป็นเงินบำเหน็จ เพื่อเป็นเงินก้อนที่จะมอบให้กับภรรยา ส่วนหนึ่ง จะนำไปใช้ในการจัดงานบวช ที่เห็นว่า หากบวชเป็นพระสงฆ์แล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์ก็จะไม่ได้ใช้ ที่ผิดศีล จึงต้องยึดจุลศีลให้เคร่งครัดเมื่ออยู่ในผ้าเหลือง การลาออกไม่เกี่ยวกับ หน้าที่การงานหรือ ความต้องการในตำแหน่งลาภยศ สรรเสริญขององค์กรแต่อย่างใด เป็นไปเพราะวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียว เพื่อให้บรรลุมรรคผลที่แท้จริงเท่านั้นเอง
ข้าราชการตำรวจ ซึ่งทำงานในกลุ่มงานสอบสวน ภ.จ.แพร่ ที่ได้กล่าวว่า ผกก.มนตรี เป็นนายตำรวจที่ดีต่อลูกน้อง มักจะสั่งสอนและให้ยึดมั่นในศีลธรรม ถือศีล 5 ให้ครบ โดยหากท่านได้ลาออกไปแล้ว ก็รู้สึกเสียดายคนดีๆ แบบนี้
ร่วมแสดงความคิดเห็น