จังหวัดแพร่ จัดงาน “น้อมรำลึกเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์” เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของเมืองแพร่
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ณ คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธีบวงสรวง เจ้าพิริยเทพวงศ์ และพิธีทำบุญคุ้มเจ้าหลวง ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ซึ่งตรงกับวันที่เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ ได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าหลวงเมืองแพร่ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2432 ณ พิพิธภัณฑ์คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่
โดยช่วงเช้ามีพิธีบวงสรวง ทำบุญคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ ในช่วงบ่ายชมขบวนแห่เครื่องสักการะ จาก 8 อำเภอ ขบวนเริ่มจากโรงเรียนนารีรัตน์มายังคุ้มเจ้าหลวง จากนั้น มีการแสดงฟ้อนไหว้สาเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ จากกลุ่มสตรี 500 คน บริเวณภายในคุ้มเจ้าหลวงและบริเวณถนนวงเวียนน้ำพุถึงหน้าศาลหลักเมืองแพร่ ปิดท้ายด้วยการแสดง Mini แสง สี เสียง “บอกเล่าเรื่องราวเจ้าหลวงเมืองแพร่” เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ อย่างยิ่งใหญ่

นายวีรกานต์ บุญตัน พัฒนาการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนางนัยนันท์ ชูสกุลนิติสินธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริม และทีมนักวิชาการ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ เข้าร่วมในพิธี นอกจากนี้ยังมีประชาชนชาวแพร่ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ร่วมเยี่ยมชมงาน เพื่อระลึกถึงกรณียกิจของเจ้านายเมืองแพร่ที่ทำคุณประโยชน์ อาทิ
- ด้านการปกครอง ให้ความร่วมมือสนับสนุนรัฐบาลส่วนกลางในการแก้ไขปฏิรูปการปกครองจากระบบหัวเมืองประเทศราชมาเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล ซึ่งนำมาใช้ในเมืองแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2439
- ด้านการศึกษา ส่งเสริมการศึกษาตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อสนองพระบรมราโชบาย การจัดตั้งโรงเรียนหนังสือไทยของรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามโรงเรียนนี้ว่า “โรงเรียนเทพวงศ์” ต่อมา รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “โรงเรียนพิริยาลัย” (ปัจจุบันอาคารไม้สักและที่ดินเดิมเป็นสถานที่ตั้งโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่)
- ด้านสาธารณะประโยชน์ เจ้าพิริยเทพวงษ์ได้ซ่อมถนนพร้อมทำสะพานข้ามห้วยและลำเหมือง จำนวน 24 แห่ง ทำด้วยไม้สักทุกๆสะพาน
- ด้านพระพุทธศาสนา ได้บูรณะซ่อมแซมวัดวาอาราม เช่น วัดหลวง วัดพระนอน วัดสวรรคนิเวศน์ วัดมิ่งเมือง (ปัจจุบันคือวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร) วัดพระธาตุช่อแฮ และขอพระราชทาน วิสุงคามสีมาให้กับวัดศรีชุม

















ร่วมแสดงความคิดเห็น