สภ.เมืองเชียงใหม่ ออกแจง ยันไม่มีการจับกุม “คนไร้บ้าน” ฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิว หลังปรากฎข่าวถูกตำรวจจับในเชียงใหม่

วันที่ 21 เม.ย. 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ขณะนี้ ในโซเชียลได้มีการนำเสนอข่าว เกี่ยวกับการที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวคนเร่ร่อนและคนไร้บ้าน ดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศห้ามออกจากพื้นที่เคหสถาน ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่าเกิดขึ้นในวันที่ 12-13 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา ตามที่ได้ปรากฎออกมาเป็นข่าว และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างมาก ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ถึงการดำเนินการจับกุมในครั้งนี้นั้น

ภาพประกอบข่าว

จากเหตุการณ์ดัวกล่าวที่เกิดขึ้นล่าสุด วันนี้ทางด้าน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้มีการแจ้งประกาศชี้แจงว่า จากเหตุการณ์ที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ลงสื่อออนไลน์ในหัวข้อ เผย “คนไร้บ้านเชียงใหม่” ถูกจับกุม-ส่งฟ้องศาล ข้อหา ออกจาก “บ้าน” ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว จำนวน 2 ราย นั้น

ภาพประกอบข่าว ขอขอบคุณ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

รายที่ 1 พี่ตุ้ย (นามสมมุติ) ถูกจับกุม เมื่อวันที่ 12 เม.ย.63 เวลาประมาณ 22.30 น. บริเวณตลาดวโรรส (กาดหลวง) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รายที่ 2 พี่ชาติ (นามสมมุติ) ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 13 เม.ย.63 เวลาประมาณ 22.00 น. บริเวณจุดตรวจใกล้ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ภาพประกอบข่าว

สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ดำเนินการตรวจสอบ ได้รายละเอียดดังนี้

  1. วันที่ 12 เม.ย.63 เวลาประมาณ 22.30 น. หรือเวลาใกล้เคียง ไม่ได้มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ที่บริเวณตลาดวโรรส แต่อย่างใด
  2. วันที่ 13 เม.ย.63 เวลา 22.00 น. ไม่มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวที่จุดตรวจใกล้ประตูท่าแพแต่อย่างใด แต่มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวที่จุดตรวจประตูท่าแพ จำนวน 1 ราย เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2563 เวลาประมาณ 00.30 น.
  3. ได้ดำเนินการสอบถามไปยัง คุณมนทนา ดวงประภา เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เกี่ยวกับรายละเอียดเพิ่มเติมของผู้ถูกจับกุม ซึ่งคุณมนทนาฯ แจ้งให้ทราบว่า ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่แล้ว ไม่ทราบว่าบุคคลเร่ร่อนนั้น มีชื่อและนามสกุลจริงว่าอย่างไร เป็นเหตุให้ไม่ได้ข้อเท็จจริงว่าคนเร่ร่อนนั้นถูกจับกุมจริงหรือไม่
  4. ได้ประสานและทำความเข้าใจกับทางศูนย์ทนายความฯ กรณีการให้ข้อมูลออกสื่อออนไลน์ ขอให้มีการตรวจสอบให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงก่อนที่จะนำไปเสนอ เพื่อให้ประชาชนที่รับข่าวสารได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริง โดยทาง สภ.เมืองเชียงใหม่ มีความยินดีที่จะให้ข้อมูลที่แท้จริง ที่จะนำไปนำเสนอต่อประชาชนต่อไป
ภาพประกอบข่าว

ขณะเดียวกันทางผู้สื่อข่าวได้ทำการติดต่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ถึงกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ได้รับการเปิดเผยว่า เบื้องต้นทางตนได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวที่ถูกนำเสนอข่าวในโซเชียลไปแล้ว ซึ่งตรงนี้ตนยืนยันว่าจากการตรวจสอบข้อมูลบันทึกประจำวัน ที่ทาง สภ.เมืองเชียงใหม่มีนั้น ในเบื้องต้น จากการตรวจสอบบันทึกวันที่ 12-13 เม.ย. 2563 ไม่พบว่ามีการลงบันทึกจับกุมเกี่ยวกับลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด ตามที่ข้อมูลข่าวได้ระบุ ประกอบกับที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการออกปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งกรณีเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลไร้บ้านหรือคนเรร่อนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พบเจอมาเช่นกัน และที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ให้เข้าใจถึงมาตรการที่ดำเนินการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกทั้งหากเป็นบุคคลเร่ร่อนนั้นมักมีปัญหาในเรื่องของการตรวจสอบ และไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน การจับกุมจึงทำได้ยากเช่นกัน และที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการดำเนินการกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นกรณีพิเศษ โดยมีการควบคุมกำกับดูแลไม่ให้เกิดความเดือดร้อน หรือไปสร้างความเดือดร้อน ส่วนในกรณีที่ว่ามีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ในวันดังกล่าวนั้น ากการลงตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่พบบุคคลที่อ้างว่าได้ถูกจับกุมตัวแต่อย่างใด เนื่องจากบุคคลเร่ร่อนที่ปรากฎในข่าวนั้นระบุว่าได้มีการพักหลับนอนที่จุดดังกล่าวเป็นประจำ ซึ่งโดยส่วนใหญ่หากเป็นกลุ่มบุคคลเร่ร่อนที่มีที่นอนอยู่เป็นจุดทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการเข้าไปตรวจสอบและชี้แจงให้เข้าใจและไม่พบว่ามีการดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดเชิงลึกนั้น ทางตนก็ได้มีการสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ในสังกัด เร่งดำเนินการตรวจสอบอยู่ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดได้

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น