นายอำเภอปางมะผ้า ชี้แจง หลังโดนกลุ่มชาวบ้านประท้วงขับไล่ออกจากพื้นที่ เผยทำงานมากว่า 5 ปี ไม่เคยมีปัญหากับชาวบ้าน

จากรณีเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา ได้มีการรวมตัวกันของราษฎร หลายหมู่บ้าน ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อขับไล่ นายจรูญ สร้อยจิต นายอำเภอปางมะผ้า โดยมีการเขียนข้อความและประกาศโจมตีว่าไม่มีความยุติธรรมในการบริหารงาน สร้างความแตกแยกให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ และส่อในการทุจริตโครงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำกัดเซาะตลิ่ง จำนวน 39 โครงการ ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวที่ถูกโจมตี ทาง นายอำเภอมองว่าเป็นเรื่องราวที่ถูกกระทำซึ่งไม่เป็นความจริง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

อ่านข่าวก่อนหน้า :  ราษฎรชนเผ่าในอ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน รวมตัวขับไล่นายอำเภอปางมะผ้า 

ข่าวความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 63 ที่ว่าการอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายจรูญ สร้อยจิต นายอำเภอปางมะผ้า เปิดเผยว่า ผมทำงานมานานทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนส่วนใหญ่ทราบดี ว่าไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร เดิมทีชาวบ้านเราไม่เคยมีความแตกแยก จนกระทั่งมาปีนี้ เริ่มมีการแตกแยกเพราะคนส่วนน้อยไม่เข้าใจในการทำงานของตน ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาทราบดีว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น แต่ตนก็ไม่อยากจะออกไปโต้ตอบ เพราะชาวบ้านรู้ดีว่าตนทำงานเพื่อบ้านเมืองชาวอำเภอปางมะผ้า

 

สำหรับเรื่องประท้วงดังกล่าวนั้น สืบเนื่องมาจากในเร็ววันนี้จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเมือง พยายามโยงให้ตนไปยุ่งกับการเมือง ซึ่งตนเป็นข้าราชการจะต้องเป็นกลางจะเข้าไปยุ่งไม่ได้ “ทีมงานของผมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านผู้นำท้องถิ่นต่าง ๆ เราเป็นทีมทำงานร่วมกันมานานช่วยกันดูแล ทั้งเรื่องของพื้นที่และพี่น้องประชาชนต่าง ๆ ผมมารับตำแหน่งตั้งแต่ครั้งแรก ผมชอบที่นี่มาก อยากอยู่ช่วยพื้นที่มี่ความสุขที่ได้ทำงานช่วยชาวบ้าน ผมปรับการทำงานไปสู่ความพึงพอใจของชาวบ้าน ไม่มีเรียกรับเงินแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องของสถานะ ผมทำให้พี่น้องที่นี่เยอะมากอย่างถูกต้อง แต่เรื่องของการพัฒนาเรามีปัญหาติดขัดเนื่องจากเราอยู่ในพื้นที่ป่าเกือบ 100%”

 

ส่วนข้อหาที่ว่าตนทุจริตโครงการก่อสร้างวางกล่องทำพนังกั้นตลิ่งพังนั้น ตนมีการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องทั้งหมด ไม่มีซ้ำซ้อน และที่สร้างก็เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมไร่นาของชาวบ้าน แต่ที่ไม่ตรงกับสัญญา คือ การนำเอาก้อนหินเล็กเข้าเพิ่มใส่ เพราะจากที่ใส่แต่หินก้อนใหญ่มันจะมีช่องที่ไม่มิดชิด และเงินที่เหลือจากโครงการก็ส่งคืนหลวงถึง 51 ล้านบาท ส่วนที่กล่าวหาว่าจับชาวบ้านบุกรุกป่า แต่ไม่จับนายทุน ตรงนี้ไม่ควรกล่าวหากันลอย ๆ มีนายทุนคนไหนที่ตนไม่จับให้บอกมา โดยเฉพาะมีการบุกรุกป่าหน้าอำเภอ จนไปทับทางน้ำไหล ตรงนี้จะต้องจัดการอย่างเด็ดขาดทางด้าน นายเสริมศักดิ์ มงคลชัยวารี กำนัน ต.ถ้าลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า นายจรูญ สร้อยจิต นายอำเภอปางมะผ้า ได้มาดำรงตำแหน่งทั้งการมารักษาการณ์และดำรงตำแหน่งจริงนั้นเกือบจะ 5 ปี ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับชาวบ้าน การมาประท้วงครั้งนี้มีผู้หนุนอยู่ ซึ่งเรามีหลักฐานครบ เนื่องจากกลุ่มนี้ต้องการมาลงเล่นการเมืองท้องถิ่นในอนาคต จึงต้องการมีพรรคพวกคนในท้องถิ่น แต่นายอำเภอไม่เอาด้วย จึงทำการประท้วงขึ้นมา ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มาประท้วงเป็นกลุ่มน้อยเท่านั้นขณะที่นางปาริชาติ อำมฤตเต็มสิทธิ์ ประธานกลุ่มสตรี อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวอีกว่า นายอำเภอคนนี้ตั้งแต่มาดำรงตำแหน่งไม่เคยมีปัญหาใด ๆ เลย ให้ความร่วมมือกับชาวบ้านในการดูแลเรื่องของความเป็นอยู่  ส่วนปัญหาของการมาประท้วงในครั้งนี้ คงมาจากการที่นายอำเภอไม่ให้ความร่วมมือกับกลุ่มที่หนุนหลังชาวบ้านให้มาประท้วง ในเรื่องของการแจกของ ที่เป็นการหาเสียงล่วงหน้า การลงเล่นการเมืองท้องถิ่น เป็นต้น จึงเกิดการขับไล่ให้นายอำเภอคนนี้ออกจากพื้นที่นั่นเอง ยืนยันว่าชาวบ้านรักนายอำเภอท่านนี้มาก เพราะท่านเป็นนายอำเภอนักพัฒนาตัวอย่างอีกคนหนึ่งด้วย จากนี้ไปคงจะต้องมีการนำเสนอผลงานของท่านที่ไม่เคยออกสื่อเลย จึงมีคนมองว่าไม่เด่นไม่ดัง ซึ่งหากทราบความจริงแล้วท่านเป็นคนทำงานตัวจริง

ร่วมแสดงความคิดเห็น