ตลอดทั้งคืนของห้วงวันที่ 17 – 18 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา กำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4, ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด, เจ้าหน้าที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 , ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บูรณาการสนธิกำลังทุกหมู่บ้านในจุดเสี่ยงล่อแหลมแนวริมแม่น้ำเมย ออกตั้งจุดตรวจบนถนนสายยุทธศาสตร์เลียบแนวชายแดนไทย – เมียนมา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกภาคส่วน ได่แบ่งกำลังออกไปเดินเท้าลาดตระเวนในทุกท่าข้ามธรรมชาติทุกแห่ง เพื่อกดดันและป้องกันสกัดกั้นกลุ่มขบวนการลักลอบขนคน แรงงานต่างด้าวข้ามชายแดนเข้ามาในเมืองชั้นในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ด้วยความเข้มข้น ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่กำลังระบาดทั้งในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ขณะที่ชายแดนอำเภอแม่สอด พบครอบครัวชาวเมียนมา ที่อาศัยอยู่ในชุมชนกลางเมืองติดเชื้อแล้วถึง 5 ราย จนคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดตาก ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ 2 ชุมชน ,ตรวจคัดกรองคน, ปิดสถานบริการ โรงเรียน และสถานที่เสี่ยงต่างๆ ภายในอำเภอแม่สอด รวมทั้งปิดด่านถาวรแม่สอด, ท่าข้ามธรรมชาติ ตลอดแนวพรมแดนจังหวัดตากเป็นการชั่วคราว
ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 ตุลาคม 2563 ด้วยสภาพอากาศแปรปรวนมีฝนตกตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจัดชุดเฝ้าระวังป้องกันในจุดเสี่ยงพบรอยเท้าคนจำนวนมาก ซึ่งเป็นรอยเท้าใหม่เดินขึ้นริมตลิ่งดินทรายริมแม่น้ำเมยมาใหม่ๆ และพบรอยล้อลากกับพื้นดินพื้นทราย ที่คาดว่าเป็นล้อของกระเป๋าเดินทางหลายรอย โดยร่องรอยทั้งหมดมีเส้นทางมุ่งหน้าจากแนวชายแดนตรงเข้าไปในป่ารกทึบเขตรอยต่อ ตำบลท่าสายลวด – ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงรีบแกะรอยติดตามไป กระทั่งพบกลุ่มคนไม่ทราบสัญชาติแอบซ่อนตัวอยู่ในป่ารกทึบท่ามกลางความมืด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนพร้อมส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดอยู่กับที่ก่อนเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบกลุ่มคนดังกล่าวมีอยู่ทั้งหมด 12 ราย ซึ่งล้วนเป็นคนไทย เป็นหญิงสาวหน้าตาดี 11 คน และชายหน้าตาดีอีก 1 คน โดยทุกคนต่างเดินทางมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวทั้งหมดไปตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด-19 อย่างเร่งด่วน ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผล ซึ่งคนไทยทั้งหมดที่ถูกจับกุมตัวให้การเบื้องต้นว่า ได้เดินทางเข้าไปทำงานในเขตจังหวัดเมียวดี สาธารณะรัฐแห่งสหภาพเมียนมา แต่ไม่ยอมบอกว่าทำงานอะไร และกลัวโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดในเมียนมา จึงว่าจ้างเรือหางยาวนั่งโดยสารลักลอบข้ามแนวชายแดนจากฝั่งจังหวัดเมียวดี เพื่อหวังจะเข้าไปในตัวอำเภอแม่สอด แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำการส่งตัวทั้งหมดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมส่งตัวดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจภูธรแม่สอด และเพิ่มมาตรการคุมเข้มขั้นสูงสุดในการป้องกันพื้นที่จุดเสี่ยงโดยเฉพาะท่าข้ามธรรมชาติและเส้นทางภูเขาตลอดแนวชายแดนจังหวัดตาก ซึ่งมีความยาวมากกว่า 542 กิโลเมตร โดยมีการเดินเท้าลาดตระเวนอย่างเข้มข้นในทุกมิติตลอด 24 ชั่วโมง
ร่วมแสดงความคิดเห็น