ฤกษ์วันปิยมหาราช อัญเชิญพระแสงคู่กาย เจ้าผู้ครองนครลำพูน นำไว้ในพิพิธภัณฑ์หริภุญชัย เปิดให้เข้าชมศึกษาเรียนรู้ฟรี

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานที่ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะพระพิมพ์โบราณหริภุญชัย” หรือ “พิพิธภัณฑ์หริภุญชัยดอยหล่อ” อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์หริภุญชัย สร้างขึ้นจากความร่วมมือของสถาบันวิจัยสังคมมหาวิทยา ลัยเชียงใหม่ โดยมี นายทีปอุทัย แสนกาศ ผู้ดูแลและเจ้าของพิพิธภัณฑ์หริภุญชัย ได้จัดพิธีอัญเชิญพระแสงดาบหลูบเงินหลูบคำ หรือมีดดาบที่เป็นพระแสงคู่กายเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้าย ต่อมาพระแสงได้ตกทอดมาถึง เจ้าพงศ์ธาดา ณ ลำพูน จนกระทั่งตกทอดมาถึง พล.อ.ต.เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน  เจ้านายฝ่ายเหนือผู้สืบราชสกุลเจ้าผู้ครองนครลำพูน เป็นบุตรคนโตใน เจ้าพงศ์ธาดา ณ ลำพูน

พล.อ.ต.เจ้าวัฒนัน ณ ลำพูน เจ้านายฝ่ายเหนือ ได้ลงบันทึกมอบมีดดาบหลูบเงินหลูบคำ ให้พิพิธภัณฑ์หริภุญชัย พร้อมหอยสังข์ทองขนาดใหญ่และขนาดเล็ก จำนวน 1 คู่ ที่เป็นหอยสังข์ที่เคยนำไปใช้ในพิธีมงคลต่างๆ มอบให้ไว้เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ของนักวิชาการโบราณคดี นักศึกษา นักเรียน และประชาชนบุคคลทั่วไป เข้าไปศึกษาเรียนรู้ได้ฟรีทุกวัน

ส่วนวันมงคลเนื่องในวันปิยมหาราชวันนี้ ได้จัดขบวนพิธีอัญเชิญมีดดาบหลูบเงินหลูบคำ และหอยสังข์ทองอีก 1 คู่นั้นเพราะมีดดาบหลูบเงินหลูบคำ นอกจากเก่าแก่โบราณแล้ว มีดดาบมีตราสัญญาลักษณ์ของ รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยช่างในอดีตได้แกะสลักไว้ที่ด้ามจับของมีดดาบดังกล่าวด้วย จึงถือเอาฤกษ์   วันปิยมหาราชเป็นวันอัญเชิญ

การจัดขบวนพิธีที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ได้ให้ความรู้ในการจัดขบวนไปด้วย ต้องมีพระพุทธรูปเป็นมงคลนำขบวนก่อน ตามด้วยขบวนของหอยสังข์ทอง 1 คู่ ขบวนพานพุ่มดอกไม้ และขบวนของกลองสะบัดชัย ตามด้วยช้างอัญเชิญมีดดาบ ให้ผู้บริสุทธิ์นั่งช้างอัญเชิญ โดยมี ดช.ปางปราณพรหม แสนกาศ อายุ 10 ปี เป็นบุตรชายของ นายทีปอุทัย       แสนกาศ ที่เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์นั่นเอง พอขบวนมาถึงพิพิธภัณฑ์ได้อัญเชิญมีดดาบหลูบดาบคำลงจากหลังช้าง แล้วนำเข้าสู่พิพิธภัณฑ์พร้อมหอยสังข์ทองทั้งคู่ จากนั้นชมการฉลองโดยการแสดงตีกลองสะบัดชัย ตามด้วยการแสดงของช่างฟ้อนนางรำ เป็นอัญเสร็จสินพิธีมงคลเนื่องวันปิยมหาราช