(มีคลิป) บก.คฟป.ทภ.3 สน. นำ ฮ.ปภ. 2 ลำ และของ ทสจ.1 ลำ ดับไฟป่าภาคเหนือ 17 จังหวัด พบ Hotspot 271 จุด ควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพคนแล้ว

เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2564 พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) ได้รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือพบ 9 จังหวัดเริ่มมีหมอกควัน เนื่องจากความกดอากาศสูง และบางจังหวัดอยู่ในช่วงบริหารจัดการเชื้อเพลิง

ช่วงเช้าเวลา 08.00 น.ของวันเดียวกัน ก.พ.บก.คฟป.ทภ.3 สน.รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่า ช่วงนี้ลักษณะอากาศทั่วไปบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็น กำลังปานกลาง ยังคงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าว ยังคงมีอากาศหนาวและลมมีกำลังอ่อนลง ส่งผลต่อการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันมากขึ้น ประกอบกับบางพื้นที่ยังมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เช้าวันนี้ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ พบ PM 2.5 เฉลี่ยนอยู่ระหว่าง 34 – 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 55-111 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ค่า AQI ระหว่าง 63 – 175 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ ดี โดยที่จ.ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา ตาก ลำพูน สุโขทัย และ กำแพงเพชร พบมีค่า PM 2.5 และ ค่า AQI อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ

ทั้งนี้สถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน 17 จังหวัดภาคเหนือ จากจำนวน Hotspot (ดาวเทียมระบบ VIIRS) วันนี้ พบจำนวน 271 จุด โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 159 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 92 จุด

ในส่วนของ บก.คฟป.ทภ.3 สน.สั่งการชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึก 15 ชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน เรื่องการดูแลสุขภาพช่วงเกิดภาวะหมอกควัน ตลอดจนรณรงค์ลดการเผาในพื้นที่ ตามข้อสั่งการของ พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการ บก.คฟป.ทภ.3 สน.

พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการ บก.คฟป.ทภ.3 สน. เผยว่า บก.คฟป.ทภ.3 สน. ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32 และ AS-350 ปฏิบัติการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน ไปเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา และวันนี้ ยังไม่สามารถดับได้ทั้งหมด


ทั้งนี้ใน พื้นที่ อ.ลี้ ศูนย์บัญชาการฯ จ.ลำพูน รับทราบจุดความร้อน ได้สั่งการให้ชุดเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าดำเนินการตรวจสอบจุดความร้อนในพื้นที่แล้ว แต่มีบางพื้นที่เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯเข้าควบคุมจุดความร้อนได้ แล้วกลับมาไหม้อีกครั้ง จึงต้องนำเฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32 และ AS-350 ทสจ. ปฏิบัติการควบคุมไฟป่าในพื้นที่อีกรอบ เพื่อให้ไฟดับสนิท

ในส่วนของ อ.ลี้ จ.ลำพูน นั้น นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการ จ.ลำพูน ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงวันที่ 14 ก.พ.64 เพื่อขอรับการสนับสนุนอากาศยานดับไฟป่าในพื้นที่ เนื่องจากขณะนี้ได้มีจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน จำนวนหลายจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ในเขตอนุรักษ์ ต.ก้อ อ.ลี้ ได้เกิดไฟปาเผาไหม้เป็นบริเวณกว้าง เบื้องต้น อ.ลี้ ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนเครือข่ายในพื้นที่ ต.ก้อ เข้าดำเนินการดับไฟได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังมีพื้นที่บางส่วนที่ไฟป่ายังคงลุกลามขึ้นไปตามแนวสันเขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากปล่อยไว้อาจจะลุกลามข้ามแนวสันเขา ก่อให้เกิดไฟป่าเผาไหม้เป็นบริเวณกว้าง

ร่วมแสดงความคิดเห็น