ชูนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์

พรรคก้าวไกลแม่ฮ่องสอนเปิดตัวผู้สมัคร สส.แม่ฮ่องสอน เขต2 ชูนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์


กรรมการเครือข่ายชาติพันธุ์พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่เปิดตัวผู้สมัคร สส.แม่ฮ่องสอน เขต2 และเลือกตัวแทนชาติพันธุ์ เป็นทีมงานคณะทำงานประจำจังหวัด ตามกลไกของพรรคและเครือข่ายชาติพันธุ์ เผยชาวบ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ 102 หมู่บ้าน

วันนี้ 28 กรกฎาคม 2565 นายเหล่าฟั้ง บัณฑิตเทิดสกุล กรรมการเครือข่ายชาติพันธุ์พรรคก้าวไกล นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล สัดส่วนเชาติพันธุ์ พร้อมทีมงานพรรคก้าวไกล เครือข่ายชุมชนการจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่พบปะปรึกษาหารือกับสมาชิกเพื่อเลือกตัวแทนชาติพันธุ์ของพรรคก้าวไกลลงสมัคร สส.จ.แม่ฮ่องสอน เขต2 โดยได้ทำการเปิดตัว นายสะท้าน ชีววิชัยพงศ์ พร้อมคณะทำงาน ของ อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย และ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอนสายใต้ เพื่อสื่อสารนโยบายและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ณ โรงแรมแทมมารีน อ. แม่สะเรียง จ. แม่ฮ่องสอน



ประวัตินาย สะท้าน ชีววิชัยพงศ์ อายุ 47 ปี เกิดวันที่ 18 สิงหาคม 2518 ที่อยู่ ตามทะเบียนบ้าน 421 หมู่ 5 ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่ทำงาน 45/1 หมู่ 3 ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทำงานเป็นผู้ประสานงานภาคสนามของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) และสหพันธุ์เกษตรกรภาคเหนือ ในการนำชาวบ้านที่ประสบปัญหาที่ดินใน จ. แม่ฮ่องสอน ร่วมชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา และ เป็นผู้ประสานงานเครือข่ายการจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำ พื้นที่ อำเภอสบเมย อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย ซึ่งเป็นเครือข่ายชาวบ้านที่ทำกิจกรรมด้านปกป้องสิทธิในที่ดิน และอนุรักษ์ทรัพยากรดิน น้ำ ป่า


โดยนายเหล่าฟั้ง บัณฑิตเทิดสกุล กรรมการเครือข่ายชาติพันธุ์ กล่าวถึงปัญหาสิทธิในที่ดินทำกิน การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การศึกษาและวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สวัสดิการ การบริการขั้นพื้นฐานและสัญชาติ ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่ ประมาณ 7,987,808 ไร่ เป็นพื้นที่ป่า 6,958,612 ไร่ หรือ 87 % เป็นที่ดินที่คนใช้ประโยชน์ทั้งหมด 1,029,196 ไร่ หรือ 12 % มีเอกสารสิทธิ์ 122,392 ไร่ หรือ 11% ของที่ดินใช้ประโยชน์ ไม่มีเอกสาร 906,804 ไร่ หรือ 89 % ของที่ดินที่ใช้ประโยชน์ จะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 649,378 ไร่ อยู่ในเขตอุทยานฯ / เขตรักษาพันธุ์ฯ 257,426 ไร่

ทั้งนี้ได้สรุปในภาพรวมว่า เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ปัญหานี้ไม่ได้พึ่งเกิด แต่เป็นแบบนี้มาโดยตลอด ระบบราชการ กลไกทางจังหวัด อำเภอ ไม่สามารถเข้ามาแก้ไขอะไรได้ ที่ผ่านมา ส.ส. ในจังหวัด ไม่เคยแสดงตัวเป็นตัวแทนของพวกเราชนเผ่าเข้าไปแก้ไขกฎหมายและนโยบายท้องถิ่น ได้งบน้อย ส่วนใหญ่เป็นเงินรายจ่ายประจำในภาระกิจที่ถ่ายโอนมา สำหรับงบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมีน้อย ถ้าเป็นพื้นที่ในเขตป่า ท้องถิ่นไม่มีอำนาจไปทำโดยตรง ต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ / อุทยาน / ทำได้เพียงซ่อม ส่วนด้านปัญหาเรื่องที่ดินทำกินซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ถูกให้ความสำคัญ และ ที่ดินในเขตป่าสงวนจำนวน 666,451 ไร่ คทช.มอบที่ดินทำกิน 7,762 ไร่ (เท่ากับ 1.16 % ) ในเขตอุทยาน – เขตรักษาพันธุ์ จะเน้นในเรื่องปราบปราม ไม่มีงบการก่อสร้างใหม่ๆ มีแต่งบซ่อมแซม และ ไม่มีงบสร้างขยายสายส่งไฟฟ้า ทำให้หมู่บ้านขาดแคลนและไม่มีไฟฟ้าใช้จำนวน 102 หมู่บ้าน**

ร่วมแสดงความคิดเห็น