ไหว้พระธาตุอินทร์แขวนเมืองแพร่ พระธาตุประจำปีเกิด ปีจอ ที่พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ แหล่งโอโซนอันดับ 7 ของไทย

จังหวัดแพร่ได้มีพระธาตุประจำปีเกิด ปีจอ(สุนัข) ขึ้นอีกแห่ง คือ พระธาตุอินทร์แขวนซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาโพธิวงศาจริยาราม พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ ร.9 จังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ที่บ้านนาคูหา หมู่ 5 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ห่างจากตัวจังหวัดไปประมาณ 25 กิโลเมตร เจ้าคุณพระวิมลกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร จังหวัดแพร่ ประธานศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาโพธิวงศาจริยาราม พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ ร.9 จังหวัดแพร่ เล่าถึงความเป็นมาของศูนย์ปฏิบัติธรรมฯว่า

เมื่อประมาณ 600 กว่าปี ณ บริเวณแห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีภูเขา หินปูน หินตั้งกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ทางชาวบ้านหรือคนพื้นเมืองเรียกภูเขาว่า ดอย ซึ่งมีชื่อดอยต่างๆดังนี้ กอยช้างผาด่าน ดอยผานมนาง หรือดอยผาสวรรค์ ดอยป่าซาง ดอยผาหลวง ดอยป่าคา ดอยป่าเปา ดอยผาสามหน่อ ดอยจำปู ดอยถ้ำ เป็นต้น ซึ่งเป็นเทือกเขาต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่แคมและลำห้วยต่างๆเกิดเป็นน้ำตกไหลหล่อเลี้ยงทำการเกษตรผ่านในตัวเมืองแพร่ไหลลงสู่แม่น้ำยม

ในอดีตที่ผ่านมาตามตำนานเล่าขานว่า ลำห้วยแม่แคมเป็นเส้นทางเดินเท้าและทางเดินทางม้า ทางวัวของเจ้าหลวงเมืองพลนคร(เมืองแพร่)เพื่อเดินทางไปหาของป่าและพักผ่อนอาบน้ำตกตลอดจนหลีกภัยสงครามข้าศึกทั้งหลายที่เข้ามารุกรานเมืองพลนคร ได้เอาทรัพย์สินมีค่ามาด้วย พอบ้านเมืองสงบสุขลงทางเจ้าหลวงเมืองพลนคร(เมืองแพร่)และบริวารก็ได้เดินทางกลับลงไปครองเมือง ดูแลเมืองต่อไปโดยที่สมบัติที่มีค่าที่นำมาด้วยก็ซ่อนหรือฝังเอาไว้ก่อนโดยมิได้นำติดตัวกลับไป

จนกระทั่งได้บูรณปฏิสังขรณ์เมืองเสร็จ ประชาชนทำมาหากินเป็นปกติสุขแล้ว ทางเจ้าหลวงเมืองพลนคร(เมืองแพร่)และบริวารก็ได้เดินทางขึ้นมาอีกครั้ง ณ บริเวณแห่งนี้เพื่อจะนำเอาสิ่งของสมบัติมีค่าท่ได้ซ่อนหรือฝังไว้กลับไป พอมาถึงก็หาไม่เจอเพราะบริเวณที่ซ่อนหรือฝังไว้นั้นกลายเป็นป่ารกทึบ ช่วยกันหาก็ไม่เจอก็ไม่ได้ทรัพย์สินสมบัติออกไป จึงสันนิษฐานว่าบริเวณป่าภูเขาแถบนี้เคยเป็นสถานที่ซ่อนสมบัติของมีค่าของเจ้าหลวงเมืองพลนคร(เมืองแพร่)มาก่อนยังมีร่องรอยปรากฏอยู่ทั่วบริเวณที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาโพธิวงศาจริยาราม พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ ร.9

ต่อมาชาวบ้านได้อพยพตามเจ้าหลวงเข้ามาทำไร่ ทำสวนเมี่ยง ปลูกพืชผักสวนครัวเลี้ยงสัตว์ส่งขายในตัวเมืองพลนคร(เมืองแพร่)จึงเกิดหมู่บ้านขึ้นในหุบเขา(ตีนดอย)ลักษณะหมู่บ้านเล็กในป่าใหญ่ จึงได้ชื่อหมู่บ้านว่าบ้านนาดอย ต่อมาทางหลวงปู่พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ฟู อตฺตฺสิวมหาเถร(บรรเล็ง) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหารได้เพิ่มชื่อบ้านขึ้นอีกท่อนหนึ่งคือ”คูหา” เพราะบริเวณแถบนี้มีถ้ำ มีคูหาอยู่เยอะจึงมีชื่อเรียกใหม่ว่าบ้านนาคูหาจนถึงปัจจุบันนี

สถานที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้เป็นป่ารกทึบต่อมานายอภิชาต ถัทรทิพย์มงคล ได้เข้ามาจับจองทำไร่ปลูกข้าวโพด ลางสาดอยู่หลายปี ทงญาติพี่น้องและคุณวุฒิภัทร แสงทองได้ถวายที่บริเวณแห่งนี้ให้กับพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมหาโพธิวงศาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวริหาร ได้มาพัฒนาเพื่อจัดสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมและได้ประสานงานกับป่าไม้จังหวัดแพร่เข้ามากำหนดเขตพัฒนา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549

ศูนย์ปฏิบัติธรรมวงศาจริยารามเป็นนามของพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมหาโพธิวงศาจารย์(สุจี กตสารมหาเถระ)อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหารอดีตที่ปรึกษาคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 และอดีตผู้ก่อตั้ง,ผู้จัดการโรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา จังหวัดแพร่

พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯได้นำได้นำพระสงฆ์ สามเณรเข้ามาพัฒนาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ สามเณรและฆราวาสและญาติโยมพุทธศาสนิกชนทั่วไป ตลอดจนเป็นสถานที่อบรมนักเรียนสามเณรของโรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา และโรงเรียนอื่นๆ มีเจ้าคุณ พระวิมลกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร เป็นประธานการพัฒนา และป่าไม้จังหวัดแพร่ได้กำหนดเขตโครงการพัฒนาศูนย์ฯ จำนวน 26 ไร่

ปี พ.ศ.2553ได้รับหนังสือสำคัญแสดงเข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พื้นที่ฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้เป็นที่พักสงฆ์ศูนย์ปฏิบัติธรรม อาณาเขตส่วนใหญ่เป็นสวนหินงอก หินตั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ในระหว่างหินตั้ง หินงอก ทางศูนย์ได้ปลูกกล้วยน้ำหว้า กล้วยหอมทอง กล้วยไข่ พืชผักสวนครัวอื่นๆเพื่อประกอบภัตตาหาร บนหน้าผาตั้งได้ก่อสร้างเป็นพุทธสถาน มีพระธาตุอินทร์แขวนซึ่งจำลองมาจากประเทศพม่า พระเจ้าชยันตีมหัศจรรย์ พระเจ้าทันใจ พระเจ้าสำเร็จเร็วพลัน พระเจ้าหยกทิพย์ พระไม้ขนุนมงคลคลคีรีศรีภูมิทิพย์ พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทยเป็นแหล่งต้นบุญ ต้นน้ำ ต้นป่าและต้นไม้ ดินแด โอโชนอันดับ 7 ของประเทศไทย ไปเมืองแพร่ต้องไปสัมผัสให้ได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น