ระดมกำลังค้นหาหนุ่ม นทท.ชาวเบลเยี่ยม

เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังค้นหาหนุ่ม นทท.ชาวเบลเยี่ยม ตกเรือยางขณะล่องแก่งหายตัวกับสายน้ำ ขณะที่การค้นหาเป็นไปอย่างลำบาก เกิดฝนถล่มหนัก ล่าสุดยังไม่พบตัว

ช่วงค่ำคืนวันนี้ (22 ก.ค.65) เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกุศลสงเคราะห์ ร่วมกับทีมประดาน้ำภาค 5 พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.แก่งกึ๊ด และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหลายสิบนายร่วมกันระดมกำลังพร้อมกับอุปกรณ์ในการช่วยกันค้นหาตัว นาย Nicolas Hinckxt อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวชาวเบลเยี่ยม หลังจากที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุพลัดตกเรือยางขณะล่องแก่งในแม่น้ำแม่แตง บริเวณแก่งกึ๊ด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวล่องแก่งชื่อดังในพื่นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แตง ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านเมืองกึ๊ด ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพลัดตกจากเรือยาง ขณะล่องแก่งน้ำแม่แตง บริเวณแก่งกึ๊ด เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังค้นหาทันทีที่ได้รับแจ้ง

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ตอนก่อนเกิดเหตุนั้น ทางบริษัททัวร์สยาม ริเวอร์ แอดเวนเจอร์ (Siam River Adventures) ได้พานักท่องเที่ยวชาวเบลเยี่ยม 3 คน เดินทางมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปล่องแก่งเรือยางที่บ้านแก่งกึ๊ด โดยทั้งสามคนได้ลงเรือยางและสวมเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย โดยมี นายปัญญา น้อยบุตร อายุ 30 ปี เป็นกัปตันบังคับเรือ

แต่ขณะกำลังล่องแก่ง มีน้ำเชี่ยวกรากเนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ เรือยางเสียหลักไปชนกับโขดหิน ทำให้นาย Nicolas Hinckxt อายุ 30 ปี หนึ่งในนักท่องเที่ยวตกจากเรือยาง แต่ก็ยังลอยตัวด้วยชูชีพไม่ห่างจากตัวเรือและไม่ยอมว่ายเข้าหาเรือ กระทั่งเรือยางลอยผ่านห่างไปกว่า 30 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้โยนเชือกเพื่อทำการช่วยเหลือ แต่นักท่องเที่ยวรายนี้ไม่ดึงเชือก ก่อนหายไปกับสายน้ำต่อหน้าต่อตา โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันลงงมค้นหาจนถึงเย็นยังไม่พบตัว คาดว่าอาจจะจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากผ่านไปหลายชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำคืนทางทีมกู้ภัยได้ช่วยกันค้นหานานหลายชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบตัว ขณะที่การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีฝนตกหนักและกระแสน้ำเชี่ยวกราก โดยในวันพรุ่งนี้จะระดมทีมค้นหาอีกครั้ง

สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งสามรายที่เดินทางมาท่องเที่ยวในครั้งนี้ มีประกันภัยคุ้มครองอุบัติเหตุ ของ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด โดยกรณีเสียชีวิตจะได้รับสินไหม จำนวน 1 ล้านบาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น