ออมสินและกรุงไทยร่วมมือกับบ.เอกชน ปล่อยกู้ขั้นต่ำเริ่ม 5,000 บ.

ข่าวปลอม!ออมสินและกรุงไทยร่วมมือกับบริษัทเอกชน ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 – 300,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท ผ่านไลน์

วันที่ 3 ก.ย. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการบอกต่อข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องออมสินและกรุงไทยร่วมมือกับบริษัทเอกชน ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 – 300,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท ผ่านไลน์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลโดยระบุว่าออมสินและกรุงไทยร่วมมือกับบริษัทเอกชน ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 – 300,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท ผ่านไลน์ ทางธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าธนาคารทั้ง 2 แห่ง ไม่มีบริการให้สินเชื่อเงินกู้ร่วมกับบริษัทเอกชน ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 – 300,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท ผ่านไลน์ ตามที่โซเชียลนำโลโก้มาแสดง และธนาคารไม่มีนโยบายให้บริการเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งการปรากฎโลโก้ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย เป็นการแอบอ้างนำตราสัญลักษณ์ของธนาคารไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยที่ธนาคารทั้ง 2 แห่งนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่แอบอ้างแต่อย่างใด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนให้งดแชร์หรือส่งต่อข้อมูลที่เป็นเท็จไปในช่องทางสื่อโซเชียลต่างๆ และเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกสื่อโซเชียลโพสต์ข้อมูลหลอกลวง และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือหากมีข้อสงสัยข้อมูลเกี่ยวผลิตภัณฑ์ธนาคารออมสิน โปรดสอบถาม GSB Contact Center โทร.1115 สำหรับธนาคารกรุงไทย สามารถตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องได้ที่เว็บไซต์ www.krungthai.com เฟซบุ๊ก Krungthai Care หรือโทร Contact Center โทร 02-111-1111

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ธนาคารทั้ง 2 แห่ง ไม่มีบริการให้สินเชื่อเงินกู้ร่วมกับบริษัทเอกชน ปล่อยกู้ขั้นต่ำ 5,000 – 300,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท ผ่านไลน์ ตามที่โซเชียลนำโลโก้มาแสดง และธนาคารทั้ง 2 แห่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่แอบอ้างแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น