คืบหน้า ดราม่าจุดพลุองค์พระธาตุเจดีย์เหลี่ยม คนห่วงเสียหาย กรมศิลป์เข้าตรวจสอบแล้ว
จากกรณีเกิดกระแสวิพากวิจารณ์ถึงความเหมาะสมกรณีมีการเผยแพร่คลิปการจุดพลุและดอกไม้ไฟจากองค์พระธาตุวัดเจดีย์เหลี่ยม โบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งในพื้นที่เวียงกุมกาม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งปรากฏภาพแสงจากดอกไม้ไฟพุ่งออกมารอบองค์พระธาตุอย่างอลังการ ก่อนที่จะระเบิดแสงสีด้านบนเกือบถึงปลายฉัตร โดยชาวชียงใหม่ที่ได้เห็นคลิปต่างกังวลที่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโบราณสถานแห่งนี้
ผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบ พบว่าการจุดพลุและดอกไม้ไฟตามคลิป จัดขึ้นในงาน “ต๋ามผ๋างประตี๊ด 9,999 ดวง บูชากู่คำหลวง” ที่วัดเจดีย์เหลี่ยม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ในประเพณียี่เป็งเมื่อคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งการแสดงแสงสีดังกล่าวจัดขึ้นโดยคณะศรัทธาวัดที่ต้องการจัดกิจกรรมเพื่อบูชาพระธาตุในช่วงยี่เป็ง

ขณะที่ล่าสุด นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เดินทางเข้าตรวจสอบที่องค์พระธาตุ พบบริเวณทางเดินรอบกำแพงแก้ว ( กำแพงรอบพระธาตุ ) ยังมีเศษซากของพลุและดอกไม้ไฟหลงเหลืออยู่บางส่วน ส่วนบริเวณช่วงกลางขององค์พระธาตุพบยังมีเส้นลวดที่ผูกติดกับเศษซากดอกไม้ไฟติดค้างอยู่ ตรวจสอบไม่พบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับองค์พระธาตุ
นายเทอดศักดิ์ เปิดเผยว่า โบราณสถานที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากร เป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่ หรือ มากกว่า 700 ปีที่ผ่านมา การจุดพลุและดอกไม้ไฟดังกล่าวพบว่าเป็นการจุดโดยคณะศรัทธาชาวบ้านเพื่อบูชาพระธาตุในคืนประเพณียี่เป็ง โดยคลิปภาพที่ออกไปทำให้หลายคนเป็นห่วงว่าจะเกิดความเสียหาย
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการนำดอกไม้ไฟผูกติดกับลวด นำไปแขวนเกี่ยวรอบองค์พระธาตุ ไม่ได้มีการตอกตะปูยึดติด ส่วนดอกไม้ไฟมีลักษณะเป็นธารน้ำตกที่เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ส่วนพลุที่แตกในช่วงท้ายคลิปซึ่งมองเห็นเป็นพลุขนาดใหญ่และดูคล้ายแตกจากปลายยอดพระธาตุ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการการจุดจากภายนอกเขตกำแพงแก้ววัด แต่จังหวะและมุมกล้องทำให้ดเหมือนถูกจุดจากองค์พระธาตุ

นายเทอดศักดิ์ กลาวว่า จากการตรวจสอบทางเดินรอบองค์พรัธาตุพบมีเศษปูนร่วงหล่นมาเล็กน้อย แต่เป็นชิ้นส่วนปูนปั้นดั้งเดิมที่เคยเสียหายมาก่อนหน้านี้จากการบูรณะมาหลายครั้ง ส่วนองค์พระธาตุดั้งเดิมที่อยู่แกนใน และ ปูนปั้นก่อทับชั้นนอกที่เป็นของใหม่ ไม่ได้รับความเสียหายจากการจุดพลุและดอกไม้ไฟที่เกิดขึ้น
สำหรับพระธาตุวัดเจดีย์เหลี่ยมเป็นโบราณสถานสำคัญที่ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร เป็นโบราณสถานที่มีเจ้าของ คือ วัดเจดีย์เหลี่ยมเป็นผู้ครอบครอง การการดำเนินการใด ๆ โดยเฉพาะการก่อสร้าง ต่อเติม เปลี่ยนแปลง ต้องแจ้งกรมศิลปากร แต่การจัดงานกิจกรรมอื่น ๆ ต้องดูองค์ประกอบว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ก็ถือว่าไม่เหมาะสม โดยเรื่องที่เกิดขึ้นได้ถวายความรู้และข้อแนะนำให้กับเจ้าอาวาสแล้ว ซึ่งเจ้าอาวาสบอกว่าจะไม่จัดแบบนี้อีก ปีต่อไปจะจุดผางประทีปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนในอนาคตกรมศิลปากรจะถวายความรู้พระสังฆาธิการ ในการดูแลรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป









ร่วมแสดงความคิดเห็น